29 กันยายน, 2555

สัญญารักมั่นนิรันดร Promise Me Forever – by…..Lorraine Heath



- สัญญารักมั่นนิรันดร Promise Me Forever – by…..Lorraine Heath
- สำนักพิมพ์ คริสตัล
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล  อรอรียา
- จำนวนหน้า  288 หน้า
- ราคา  192 บาท



สัญญารักมั่นนิรันดร Promise Me Forever – by…..Lorraine Heath

ช่วงนี้ชักเริ่มรุ้ตัวเหมือนว่าหยิบหนังสือเล่มไหนมาอ่านก็ไม่ค่อยจโดนใจเลย หรือเราจะคาดหวังมากไปก็ไม่รู้ รวมถึงเล่มนี้ด้วย เล่มนี้ตอนอ่านๆไปประมาณครึ่งเล่มได้ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่มีแรงจูงใจให้อยากอ่านต่อเลยแต่ก็อ่านจนจบนะเพราะไม่อยากค้างไว้เพราะถ้าค้างไว้แน่นอนที่เราจะไม่หยิบมาอ่านต่อมีความเป็นไปได้สูงเลยต้องอ่านให้จบ แต่เล่มไม่หนามากค่ะอ่านแป๊บเดียวก็จบ เพียงแต่เพลียเอง ไม่รู้เพลีย พล็อต การดำเนินเรื่อง หรือ สำนวนแปลกันแน่ ที่ทำให้อยากให้จบเร็วๆ จริงๆไม่ค่อยมีปัญกับพล็อตแนวอดีตรักฝังใจ ถ้าพล็อตสนุกโอเคก็อ่านได้ แต่เรื่องนี้เบื่ออ่ะ

หลังจากสิบปีก่อนลอเลน  แฟร์ฟิลด์ และ ทอม วอร์เนอร์ มีเหตุต้องให้ทั้งสองคนแยกจากกันในขณะที่ ลอเลนมีอายุได้เพียง 14 ปี ต้องย้ายจากเท็กซัสเพื่อตามแม่มาอยู่ที่อังกฤษ และทอม 16 ปี แต่ทั้งสองคนได้ให้สัญญากันว่าจะติดต่อกันทางจดหมายทุกวันแต่จดหมายที่ทั้งสองคนส่งหากันนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่เคยได้รับเลยตลอดระเวลาสิบปีที่ผ่านมาเพราะ จดหมายทั้งหมดถูกยึดไปโดยแม่ของลอเลนที่ไม่อยากให้ทั้งสองคนติดต่อกันอีกเพราะแม่ของลอลเนต้องการให้ลูกลืมเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาจากเท็กซัสให้หมด และที่สำคัญแม่เห็นว่าทอมเองเป็นแค่เด็กเร่ร่อนไม่มีอนาคตคนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วหลังจากนั้นทอมพยายามทำงาอย่างหนักเพื่อสร้างฐานะให้คู่ควรกับลอลเน และ เขา ได้สร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่งตามความฝันของลอลเนจากความทรงจำที่ทั้งสองคนเคยคุยกันในอดีต

และจากอดีตที่ทอมเคยเป็นคนพเนจรเร่ร่อน เขาก็ได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือเอิร์ลแห่งซาคส์ ผู้ชายที่มีเลือดสีน้ำเงินไม่ใช่เด็กเร่ร่อนไม่เคยมีบ้านเหมือนในอดีต และนั่นทำให้ทอมต้องเดินทางมายังอังกฤษเพื่อรับตำแหน่งเอิร์ลแม้ว่าทอมเองจะพยายามปฏิเสธตำแหน่งเอิร์ลนั้นไปก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้ทอมเดินทางมายังอังกฤษไม่ใช่มรดกที่เขาได้รับแต่เป็นลอเลนต่างหากผู้หญิงที่แม้ว่าเขาจะพยายามลืมเธอไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยสำเร็จสักทีและที่สำคัญการทวงหนี้จากลอเลนที่เธอยังติดค้างเขาอยู่นั่นน่าสนใจกว่าอะไรทั้งหมด

และตามนั้นทั้งสองคนได้พบกันอีกครั้งและต่างคนก็ถามว่าทำไมตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาถึงไม่เคยส่งจดหมายถึงกันเลยแม้สักฉบับเดียวแต่ความจริงก็คือทั้งสองคนส่งจดหมายหากันในทุกๆวันเล่าเรื่องราวต่างๆในชีวิตและได้รู้สาเหตุว่าทำไมจกหมายไม่เคยจะถึงมือของทั้งสองคนเลย และการทวงหนี้จากทอมที่ลอเลนยังติดค้างเขาอยู่เมื่อครั้งในอดีตก็เริ่มขึ้น แม้ทั่วทั้งลอนดอนจะมีเรื่องของเอิร์ลแห่งซาคส์คนใหม่เป็นหัวข้อสนทนา แต่สำหรับทอมเองเขารู้ว่าเขาไม่ได้มีลักษระของการเป็นเอิร์ลมากนัก และ เขาเองก็ไม่เคยคิดจะสนใจและเขารักชีวิตคาวบอยที่มีอิสระในเท็กซัสมากกว่าการเป็นขุนนางชั้นสูงที่ต้องทำตัวอยู่ในกฏเกณฑ์ตลอดเวลา แต่กระนั้นการที่จะเรียนรู้กฏเกณฑ์ต่างๆของคนชั้นสูงก็เป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะงั้นการที่จะหาคนมาแนะนำเขาเรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลอเลนผู้หญิงที่ทอมไม่เคยจะลืมเธอเลยไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม

อย่างที่บอกค่ะอ่านจบแล้วเรานั่งนึกนานเหมือนกันว่าจะเขียนรีวิวยังไงเพราะอ่านแล้วเราจำได้แต่อารมณ์ออกเบื่อๆ จริงๆเราว่าต้นฉบับคงสนุกมั้งเพราะเห็นได้รางวัลมาด้วยแต่เราอ่านแล้วง่วงว่ะ อ่านไปบางช่วงแอบนึกถึงเรื่อง เดอะ โน้ตบุ๊ค(ช่วงเขียนจดหมายนั่นแหละ)มันช่างอารมณ์เดียวกันซะจริงๆ และพระเอก(ฉบับแปล)ช่างเป็นคาวบอยที่โคตรจะสุภาพเรียบร้อยมากๆพูดครับตลอด หรือ จะเพราะกลายมาเป็นเอิร์ลเลยต้องพูดจาให้สุภาพเข้าไว้ แต่อ่านแล้วไม่ได้อารมณ์เว้ยเฮ้ย อารมณ์ร่วมเลยราบเรียบตามมั้งและอยากให้จบๆไปซะ 

หนีหัวใจไปสุดฟ้า The Runaway Princess by.....Christina Dodd



- หนีหัวใจไปสุดฟ้า The Runaway Princess  by.....Christina Dodd
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล กัญชลิกา
- จำนวนหน้า 524 หน้า





หนีหัวใจไปสุดฟ้า The Runaway Princess  by.....Christina Dodd

เราเองเป็นแฟนคริสติน่า ดอดด์ คนหนึ่งเหมือนกัน อยากอ่านงานของเธอหลายๆเล่มเลย แต่มีไม่ครบทุกเล่มหรอกค่ะ ส่วนมากจะยืมเพื่อนอ่านเอา  เหมือนเล่มนี้แหละก็ยืมมาอ่านเหมือนกัน 555 แต่ไม่ว่าจะเป็นงานของดอดด์หรือไม่ใช่ถ้าเรื่องไหนแปลออกมาเป็นราชาศัพท์เราขอคิดนานๆเลยกว่าจะยอมหยิบมาอ่าน เรามีปัญหากับการอ่านิยายที่ใช้คำราชาศัพท์มาก คือบอกตรงๆรำคาญ และ อึดอัดอ่ะเวลาอ่านนิยายแล้วเจอใช้ราชาศัพท์เยอะๆเนี่ย เพราะอ่านแล้วต้องคิดตามนะว่าคำนี้แปลว่าอะไรฟร่ะ เหนื่อยอ่ะ และยิ่งเล่มนี้พระเอก นางเอก เป็นเจ้าหญิง เจ้าชายด้วย คิดดูเอาเถอะ เพราะราชาศัพท์ทั้งเล่มจริงๆ คือก็พยายามอ่านให้สนุกแล้วแหละแต่สำหรับเราอึนอ่ะ ก้ากกกก บางทีก็ทำเป็นลืมๆราชาศัพท์ไปบ้างนะเวลาอ่านแต่เจอศัพท์ชั้นสูงเล่นเอามึนไปเลย เราไม่ถนัดจริงๆแต่ก็เข้าใจได้แหละ แต่คนแปลเก่งจริงๆที่แปลราชาศัพท์ได้ละเอียดมากทุกคำกันเลยทีเดียว

หลังจากการมาพักผ่อนที่บ่อน้ำพุร้อน อีแวนเจอร์ลีน สคอฟฟิลด์ ก็พบว่าเธอกำลังถูกติดตามและจ้องมองจากชายแปลกหน้าคนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็มาปรากฏตัวที่หน้าห้องนางพร้อมกับบอกว่าเขาคือเจ้าชายและคู่หมั้นของนางที่ทั้งสองคนจะต้องแต่งงานกันเพื่อรวมสองประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวตามคำทำนายที่มีในอดีต และแม้ว่าอีแวนเจอร์ลีนจะพยายามปฏิเสธแค่ไหนว่านางไม่ใช่เจ้าหญิงคนที่เขาตามหาแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจตามที่นางบอกเขาเลย และ ทางเดียวที่อีแวนเจอร์ลีนจะรอดพ้นจากเรื่องนี้ได้ก็คือต้องหนีไปจากเขาให้ได้

สำหรับดานัวร์เองการเฝ้าติดตามเจ้าหญิงที่เป็นคู่หมั้นของเขา เขาแน่ใจว่าไม่ผิดตัวแน่แม้ว่านางจะพยายามบอกอย่างนั้นเพราะคนที่ไม่ใช่เจ้าหญิงจะไม่มีวันรู้เรื่องราวต่างๆได้เหมือนที่เจ้าหญิงเท่านั้นที่ทรงรู้ แต่อีแวนเจอร์ลีนรู้ทุกอย่างแม้นางจะพยายามปฏิเสธสักแค่ไหนก็ตาม ดานัวร์ต้องพาคู่หมั้นของเขากลับไปยังประเทศบ้านเกิดเพื่อไม่ให้พวกกบฏ(ซึ่งก็คือน้องชายของเขาเอง)ยึดอำนาจได้สำเร็จ แต่ระหว่างการเดินทางดานัวร์ก็งสัยว่าผู้ติดตามคนสนิทของเขาทั้งสองคนอาจจะหันหน้าไปร่วมมือกับฝ่ายกบฏเพื่อที่จะกำจัดเขาและเจ้าหญิงและนั่นทำให้ดานัวร์ต้องดูแลและคุ้มครองคู่หมั้นของเขาให้ปลอดภัยจากกลุ่มกบฏจนกว่าจะถึงชายแดนประเทศของเขา

เรื่องนี้โคตรสงสารพระเอกอ่ะเพราะต้องให้นางเอกขี่หลังแทบจะทั้งเรื่องแบกนางเอกขึ้นเขา ลงเขาเป็นว่าเล่นเลยเพราะนางเอกเท้าเจ็บจากหินบาดหลังจากพยายามหนีให้พ้นจากพระเอกจากการที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าหญิงและก็หนีจากพระเอกได้แหละแต่วิ่งเข้าสู่เงื้อมือของฝ่ายกบฏแบบง่ายดายเลยและเพื่อใช้เจ้าหญิงเป็นข้อต่อรองจากดานัวร์ จนทำให้พระเอกต้องหาทางเข้าไปช่วย แต่ใช่ว่านางเอกจะไม่ทำอะไรเลยนะ หลังจากถูกจับอีแวนเจอร์ลีนก็ขโมยถุงดินปืนแอบซ่อนเอาไว้แล้วพอถึงเวลาก็จัดการโยนเข้ากองไฟจนระเบิดไปทั่ว แล้วหนีออกมากับพระเอก และแม้จนถึงตอนนี้แม้อีแวนเจอร์ลีนจะพยายามบอกดานัวร์ว่านางไม่ใช่เจ้หญิงคนที่เขาตามหาเขาก็ยังไม่เชื่อจนกระทั่ง(สปอยล์)ดานัวร์พบว่าอีแวนเจอร์ลีนไม่มีสัญลักษณ์บางอย่างที่แก้มก้น.....นั่นแหละเขาจึงรู้ว่าที่อีแวนเจอร์ลีนพูดมาทั้งหมดคือความจริง แต่แม้จะรู้ความจริงทั้งหมดดานัวร์ก็ไม่อาจปล่อยให้อีแวนเจอร์ลีนไปจากชีวิตเขาได้



23 กันยายน, 2555

หัวใจที่ไร้รัก Silk and Steel - by…..Kat Martin


- หัวใจที่ไร้รัก Silk and Steel - by…..Kat Martin
สำนักพิมพ์แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล ศิริกานต์
- จำนวนหน้า 579 หน้า



หัวใจที่ไร้รัก Silk and Steel - by…..Kat Martin

เรื่องแรกของแคท มาร์ติน ที่หยิบมาอ่านซื้องานของเธอเก็บไว้หลายเรื่องเหมือนกัน แต่ไม่ได้อ่านสักทีเริ่มต้นที่เล่มนี้ อืมมม เราว่าแนวของแคท ไม่โดนใจเราเท่าไหร่แฮะ จริงๆพล็อตเรื่องน่าสนใจมากนะเล่มนี้แต่อ่านๆไปเราแอบรู้สึกเบื่อเหมือนกัน อย่างที่บอกแม้พล็อตจะน่าสนใจเพราะ(คนอื่น)คิดว่านางเอกเป็นบ้าเลยถูกจับตัวไปอยู่โรงพยาบาลบ้ามาซักพัก ส่วนพระเอกก็เป็นพวกไม่ยอมมีความรัก ไม่ยอมที่จะเสียหัวใจให้ใครในชีวิตนี้ จนมาเจอนางเอกที่ครั้งแรกเจอกันนั้นนางเอกมาในสภาพ สกปรกมอมแมมมากเพราะเพิ่งหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าที่ลุงแท้ๆส่งตัวเข้าไปอยู่เพราะหวังจะฮุปสมบัติที่พ่อนางเอกทิ้งไว้ให้ก่อนตาย

หลังจาก แคธรีน เกรย์สัน ได้หนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าที่สถานที่แห่งนั้นเปรียบเหมือนนรก ที่แคธรีนจะต้องหนีออกไปให้ไกลที่สุดเพื่อจะไม่ถูกจับกลับไปอีกและการได้รับความช่วยเหลือจาก ลูเชี่ยน มาร์ควิสที่ห้าแห่งลิตช์ฟิลด์ทำให้แคธลีนเริ่มมีความหวังที่จะหนีจากขุมนรกที่เคยอยู่แต่แม้จะซาบซึ้งต่อลูเชี่ยนสักแค่ไหนที่เขาได้ช่วยเหลือแคธรีนก็ไม่อาจเปิดเผยความจริงได้ว่าเธอหนีออกมาจากโรงพยาบาลบ้าแต่หลังจากนั้นไม่นานสุดท้ายแคธรีนก็ต้องยอมสารภาพความจริงทั้งหมดให้ลูเชี่ยนฟังและลูเชียนเองก็เชื่อว่าแคธรีนไม่ได้บ้าอย่างที่ลุงของเธอกล่าวหาและเขาจะคอยปกป้องแคธรีนไม่ให้ถูกทำร้ายได้อีกต่อไป

แต่หาได้ง่ายอย่างนั้นเมื่อแคธรีนถูกจับตัวเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าอีกรอบโดยที่ลูเชียนก็พยายามหาทางช่วยเหลือแคธรีนออกมาให้เร็วที่สุดและทางสุดท้ายที่จะรวดเร็วที่สุดคือการพาแคธรีนหลบหนีออกมาจากที่นั่นให้ได้ และเพื่อให้แน่ใจว่าแคธรีนจะปลอดภัยที่สุดเขาต้องซ่อนตัวเธอไว้จนกว่าจะแน่ใจ หลังจากการช่วยเหลือของลูเชียนแคธรีนเองก็คิดหาทางที่จะเป็นอิสระจากเรื่องทั้งหมดและลุงของเธอก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้อีกต่อไป แคธรีนจึงวางแผนทำให้ตัวเองเสื่อมเสียแม้ว่าในแผนการนั้นจะมีลูเชียนเข้ามาเกี่ยวด้วย เพราะหลังจากนี้เขาจะต้องยืนยันว่าเธอไม่ได้บ้าและแต่งงานกับเธอฐานะที่ล่อลวงทำให้แคธรีนเสื่อมเสียเธอเองก็รู้ว่าแผนการของตัวเองในครั้งนี้จะทำให้ลูเชียนเกลียดเธอไปตลอดชีวิตก็ตาม

และแน่นอนเมื่อลูเชียนรับรู้แผนการที่แคธรีนตั้งใจทำจะทำให้เขาแทบอยากฆ่าเธอทิ้งและเขาบอกกับตัวเองว่าหลังจากแต่งงานกับผู้หญิงที่หลอกลวงและเจ้าเล่ห์วางแผนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการและเขาเองก็จะไม่มีวันยกโทษให้เธอในเรื่องนี้และภายในระยะเวลาหนึ่งปีที่เขาและแคธรีนได้แต่งงานกันภายใต้ข้อตกลงที่มีเขาแน่ใจว่าจะทำให้เป็นนรกบนดินสำหรับผู้หญิงที่กล้าทรยศเขาเชียวแหละ แต่สิ่งที่คิดไว้กลับไม่เป็นแบบนั้นเมื่อลูเชียนพยายามปฏิเสธความรู้สึกตัวเองแค่ไหนว่าไม่ต้องการแคธรีนแต่ทั้งหมดที่เขาต้องการและรู้สึกตลอดเวลาก็คือแคธรีนเท่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่เคยยอมรับกับตัวเองเลยว่าแท้จริงแล้วเขารักแคธรีน

อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้พล็อตน่าสนใจนะแต่อ่านแล้วเราแอบเบื่อซะงั้น พระเอก นางเอก ไม่น่าสนใจอย่างที่คิด

เล่ห์ลับพิศวาสร้าย Dangerous Secrets - by.....Lisa Marie Rice


- เล่ห์ลับพิศวาสร้าย Dangerous Secrets - by.....Lisa Marie Rice
สำนักพิมพ์ คริสตัล
- หนังสือแนว  romantic suspense
- ผู้แปล นิชดา
- จำนวนหน้า -
- ราคา 232บาท




เล่ห์ลับพิศวาสร้าย Dangerous Secrets - by.....Lisa Marie Rice

ก่อนหน้านี้ได้อ่านงานของ ลิซ่า มารี ไรท์ มาสาม/สี่เล่ม ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายส่วนหนึ่งเพราะการแปลเลยที่ทำให้เราขยาดไม่ว่าเรื่องนั้นจะพล็อตดียังไงเลิฟซีนฮอตแค่ไหนถ้าเจอสำนวนแปลทรมานใจมักไม่รอดกลายเป็นเสียดายงานเล่มนั้นไปเลย แต่เล่มนี้เป็นคนละคนกับที่แปลชุดมิดไนท์และสำนวนก็โอเคพอสมควรค่ะแม้จะมีบางคำเวิ่นไปหน่อยแต่โดยรวมเราว่าโอเค

การได้สวมบทเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ในชื่อของ นิโคลัส เอมส์ ในฐานะของหัวหน้าของหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อจับวายร้ายที่คนทั่วไปรู้จักเขาในนามนักประพันธ์ระดับโลกแต่แท้จริงแล้วเขาคืออาชญากรคนสำคัญที่ทางการต้องการตัวและในฐานะของหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษนี้นิคจึงต้องปลอมตัวเพื่อเข้ามาสืบเรื่องราวต่างๆผ่านทางผู้หญิงคนหนึ่งอย่างแชริตี้ พรีวิตต์ ซึ่งเธอคือเพื่อนสนิทของวัสซิลลี โวรอนต์ซอฟ อาชญากรในคราบของนักเขียนระดับโลก นิคพบว่าการได้อยู่ใกล้กับแชริตี้และความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขาชักจะยุ่งยากขึ้นทุกทีและเขารู้ว่าความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน(แหงล่ะสิ)เขาต้องเตือนตัวเองเสมอว่าเขามาที่นี่เพื่อเค้นข้อมูลและหลอกล่อให้แชริตี้เปิดเผยเรื่องราวต่างๆของวัสซิลลีให้ได้มากที่สุด

แต่การที่นิคได้ใกล้ชิดกับแชริตี้ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้รับรู้ว่าผู้ชายที่เธอเรียกว่าเพื่อนนั้นคือคนที่ชั่วช้าที่สุดและแชริตี้ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า วัสซิลลี คิดว่าเธอคือเมียของเขาที่ตายไปแล้วและไม่ว่าใครจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับแชริตี้วัลซิลลีจะจัดการจนแน่ใจว่าจะไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก เหมือนที่นิคโดนกำจัดหลังจากที่(สปอยล์)เขาและแชริตี้แต่งงานกันได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง...นิโคลัส เอมส์ ได้จากไปแล้วตลอดการ เหลือเพียง นิค ไอร์แลนด์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่นิคเองก้ไม่รู้ว่าเขาจะอธิบายเรื่องนี้กับแชริตี้ยังไงดีแต่การที่นิคมองเห็นเธอต้องเจ็บปวดก็แทบฆ่าเขาให้ตายด้วยเหมือนกัน

สุดท้ายนิคก็เลือกที่จะบอกความจริงกับแชริตี้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใครเข้าใจนางเอกเลยนะหลายวันก่อนนี้เสียใจแทบจะขาดใจตายแต่บางทีเหมือนมีความรู้สึกว่าสามีตัวเองเหมือนวนเวียนๆอยู่ใกล้ๆตัวนี่แหละจนคิดว่าตัวเองจิตหลอนอาจเป็นบ้าไปแล้วเพราะคิดว่าสามีตายไปแล้ว แต่วันนี้เขาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าแล้วสารภาพทุกสิ่งอย่างก็ไม่แปลกที่นางเอกจะโกรธ แต่ก็เข้าใจนิคด้วยอ่ะ เพราะทุกอย่างมันคือหน้าที่และทุกอย่างก็ผิดแผนไปเกือบหมดเพราะเขาอยากปกป้องแชริตี้จนยอมแหกกฏทุกอย่างเพื่อแต่งงานเพราะเขารู้ดีว่านี่คือวิธีที่จะปกป้องเธอจากวัลซิลลีได้

อย่างที่บอกตอนแรกค่ะว่าเล่มนี้โดยรวมสำนวนโอเคเลยแหละ แม้บางคำจะออกแนวเรียบร้อยยืดเยื้อโดยไม่จำเป็นไปหน่อยแม้บางทีพระเอกจะสุภาพถี่ไปหน่อย

เทพบุตรราชัน Return of the Warrior - by Kinley MacGregor


- เทพบุตรราชัน Return of the Warrior - by Kinley MacGregor
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล จิตอุษา
- จำนวนหน้า 480 หน้า



เทพบุตรราชัน Return of the Warrior - by Kinley MacGregor

เล่มที่หกแล้วสำหรับชุดเทพบุตร เทพบุตรแดนเถื่อน / เทพบุตรบาป / เทพบุตรทระนง / เทพบุตรสุดปราถนา / เทพบุตรนักรบ เล่มนี้ เป็นเรื่องของคริสเตียนหนึ่งในสมาชิกกลุ่มภราดร ซึ่งเขาเป็นราชาองค์หนึ่งที่ไม่คยต้องการบัลลังค์ และลืมไปแล้วว่าเขาเคยแต่งงานเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก  และ ตอนนี้ภรรยาของเขาซึ่งเป็นราชินีอีกประเทศหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเรียกร้องสิทธิความเป็นสามีจากเขา เพื่อประเทศของนางแต่ตามสเตปพระเอกไม่ต้องการภรรยาและเขาไม่มีทางที่จะยอมมอบสิ่งที่นางต้องการให้ได้เพราะเขาไม่ต้องการทั้งภรรยาและราชบัลลังค์และแม้เขาจะพยายามปฏิเสธในตัวของราชินียังไงสุดท้ายก็หมดท่าอยู่ดีเพราะต้านทานเสน่ห์นางเอกไม่ได้

จะบอกว่าตอนอ่านเล่มนี้คนที่เราชอบมากกว่าพระเอกนางเอกก็คือลูเทียนคนสนิทของนางเอกและเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่นางเอกมีที่เขาแสดงออกเหมือนคนเสียสติแต่จริงๆแล้วเป็นผู้ชายที่ฉลาดมาก เวลาพูดเตือนสติพระเอกนี่โคตรฉลาด แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่เรื่องของ ราชบัลลังค์ของพระเอกนางเอก ที่มีคนจ้องจะครอบครองและสังหารพวกตนให้พ้นทาง และก็เหมือนเดิมที่พระเอกจะมีปมปัญหาชีวิตในอดีตและกลัวที่จะต้องผูกพันกับใครจึงพยายามกันความรู้สึกที่มีไม่ให้นางเอกรู้ แต่ไม่รอดเงื้อมือนางเอกไปได้

เล่มนี้อ่านแล้วเบื่อๆอ่ะ หรือจะเอียนชุดเทพบุตรไปแล้วก็ไม่รู้ อ่านไปเจ็ดเล่มชอบอยู่แค่สองเล่ม เพลียจริงไรจริง เล่มลอคแลนเล่มสุดท้ายสงสัยจะดองเอาไว้ก่อนแหง แถมมาดดนหั่นเนื้อหาออกไปอีกยิ่งไม่มีแรงจูงใจให้อยากหยิบมาอ่านเอาไว้มีโอกาสก่อนค่อยจัดเล่มสุดท้าย(แต่ไม่ท้ายสุด)


เทพบุตรนักรบ A Dark Champion - by.....Kinley MacGregor



- เทพบุตรนักรบ A Dark Champion - by.....Kinley MacGregor
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์ 
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล จิตอุษา
- จำนวนหน้า 554 หน้า




เทพบุตรนักรบ A Dark Champion - by.....Kinley MacGregor

บ่นว่าเบื่อเทพบุตรมาสามเล่มแล้ว(ยกเว้นเล่มซินนะ) เทพบุตรแดนเถื่อน / เทพบุตรบาป / เทพบุตรทระนง / เทพบุตรสุดปราถนา แต่ก็ยังไม่หยุดนะหยิบเล่มที่ห้ามาอ่านอีกแต่ผิดคาดเลยเราอ่านเล่มนี้แล้วชอบซะงั้นอาจจะพอๆกับเล่มซินเลยล่ะพระเอกไม่น่ารำคาญปมปัญหาชีวิตก็เหมือนกันกับทุกเล่มในชุดที่ผ่านมาแหละ สำหรับเล่มนี้แม้จะพร่ำเพ้อโทษตัวเองแต่เราว่าสไตรเดอร์ไม่มานั่งโอดครวญแล้วปล่อยให้เวลาสูญไปเปล่าๆแล้วไม่ทำไรเลยเปิดเรื่องมาแน่นอนตามคาแร็คเตอร์ของผู้ชายหน้าตาดี และ เป็นอัศวินที่เก่งสุดๆย่อมต้องมีผู้หญิงวิ่งไล่ตามเป็นพรวนประหนึ่งเซเลปดีๆนี่เอง ^^

หลังจากระยะเวลาสามปีที่สไตรเดอร์ เอิร์ล แห่งดแล็คมอร์ต้องถูกคุมขังอยู่ในคุกที่แม้ว่าเขาจะหนีออกมาจากที่นั่นได้พร้อมกับเพื่อนในกลุ่มภราดรของเขาแต่สิ่งที่คอยหลอกหลอนสไตรเดอร์อยู่ก็คือคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับเด็กชายคนหนึ่งว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเขาไว้ในคุกแห่งนั้นแต่ไตรเดอร์ไม่สามารถช่วยเด็กคนนั้นจากการทารุณกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นและไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กคนนั้นได้และสิ่งนั้นก็ตามหลอกหลอนเขาอยู่ทุกคืนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังจากวันนั้นสไตรเดอร์ก็ให้สัญญากับตัวเองว่าจะคอยปกป้องพี่น้องกลุ่มภราดรของเขาจากความโหดเหี้ยมของพวกซาราเซนที่ตอนนี้กำลังแฝงตัวเข้ามาเพื่อกำจัดพวกเขาทีละคน

 แต่สิ่งที่สไตรเดอร์ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรก็คือคำบัญชาของกษัตริย์ที่เขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พระองค์ทรงเลือกให้ (ซึ่งเป็นแผนการจับคู่ของพระเจ้าเฮนรีที่อยากให้สไตรเดอร์และโรวีน่าแต่งงานกัน)และเพื่อแลกกับอิสระในการเลือกสามีของผู้หญิงคนนั้นสไตรเดอร์ต้องชนะการแข่งขันขับเพลงและเล่นพิณซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทนเห็นไม่ได้หลังจากที่แม่เขาเสียชีวิตลงจากฝีมือพ่อเขาเอง

และในที่สุดสไตรเดอร์ก็ต้องยอมมาฝึกร้องเพลงเล่นพิณกับโรวีน่า(แต่จริงๆก็ไม่ค่อยจะได้ฝึกในส่วนนี้เท่าไหร่หรอก)เพราะระหว่างนั้นมือสังหารจากพวกซาราเซนก็จัดการฆ่าคนในกลุ่มภราดรและสไตรเดอร์เองคือคนที่ทุกคนคิดว่าเขาคือผู้ลงมือโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามือสังหารได้แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเพื่อรอการแก้แค้นจากการกระทำในอดีตและเรื่องต่างๆก็ค่อยๆเผยความจริงออกมาเมื่อสไตรเดอร์รับรู้ว่าเด็กชายที่เขาเคยให้สัญญาแต่ไม่สามารถพาเขาออกมาจากคุกและพวกที่ทารุณกรรมเขาอยู่ในคุกเมื่อสามปีที่แล้วนั่นก็คือ(สปอยล์)...คิท น้องชายของเขาเอง...และ คิท คือ มือสังหารที่ถูกส่งตัวมาเพื่อจัดการกับเขาและกลุ่มภราดร.... เล่มนี้อย่างที่บอกไม่น่าเบื่อ(พระเอก)อย่างที่คิดแฮะ 

แล้วเราว่าสไตรเดอร์น่ารักมากช่วงที่พยายามจะเขียนจดหมายให้นางเอกแต่เขาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เลย จนนางเอกเข้ามาเจอแล้วบอกจะช่วยเขียนให้ จากนั้นก็บอกไปว่าอยากจะเขียนยังไงบ้างในจดหมาย นางเอกอึ้งไปสิบวิได้ว่าใครกันที่จะได้รับจดหมายนี้เพราะพระเอกไม่ยอมให้ลงชื่อจะเก็บไว้หัดเขียนแล้วค่อยลงทีหลัง แต่ตอนโรวีน่าฟังเนื้อความที่สไตรเดอร์ให้เขียนลงไปกลับไม่ได้เขียนสักตัวเพราะ(สปอยล์)แค่คำพูดที่พระเอกพูดนางเอกก็รับรู้ความรู้สึกทั้งหมดแล้วว่าจดหมายฉบับนี้จะส่งถึงนาง...เท่านั้นแหละน้ำตานางเอกทะลักทะลาย จดหมงจดหมายไม่ต้องเขียนต่อกันแล้ว 555

22 กันยายน, 2555

บ่วงรักมนตราเสน่หา Wildly Winston (Winston Brothers #1-4) - by Lori Foster


บ่วงรักมนตราเสน่หา Wildly Winston (Winston Brothers #1-4) - by Lori Foster
- สำนักพิมพ์ คริสตัล 
- หนังสือแนว contemporary romance
 - ผู้แปล มิราด้า
- จำนวนหน้า  544 หน้า
- ราคา 312 บาท





บ่วงรักมนตราเสน่หา Wildly Winston (Winston Brothers #1-4) - by Lori Foster

หลังจากเคยอ่านงานของ ลอลี่ ฟอสเตอร์ ไปก็พยายามหาหนังสือของเธอมาอ่านเรื่อยๆอย่างเล่มนี้ชั่งใจอยู่หลายรอบมากจะซื้อดีมั้ยเพราะราคาสูงจัง สุดท้ายก็ตัดสินใจสอยมาซะเลย เพราะชื่อของลอลี่ลยนะ แต่ตอนซื้อดันลืมดูชื่อคนแปลนี่สิเพราะมิราด้าเจ้าเดิมกับสำนวนที่ทำเอาเวลาอ่านอึนไปเหมือนกัน ตะ ตะ แต่....ไม่น่าเชื่อว่า มิราด้าแปลเล่มนี้จะไม่มี น้องชาย/น้องสาว/ฟัด/ปั๊ม หลุดมาแหะ(แต่มีหัวนมและจิตหงุดเงี้ยวเหอะ!) และโดยรวมมิราด้าสำหรับเล่มนี้โอเคแบบไม่น่าเชื่อแหะ แม้จะมีบางคำหลุดมาแบบบ่อยมากจนน่ารำคาญแต่เราว่าดีกว่าเล่มอื่น(ที่เธอแปล)ที่เราได้อ่านนะ

เล่มนี้เป็นเรื่องสั้นสี่เรื่องของพี่น้อง(ผู้ชาย)วินสตันสี่คนที่หล่อ รวย อึด บึก ถึก ทน ได้พบกับผู้หญิงของตัวเอง ภายใต้คำสาปเรื่องความรักของตระกูล ในสี่เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุดเพราะอ่านแล้วเราเฉยๆอาจเพราะเป็นรื่องสั้นมั้งเลยรู้สึกว่ามันจบแบบเร็วๆไปหน่อยแต่เรื่องที่สี่เรื่องสุดท้ายจะยาวกว่าเรื่องอื่นก่อนหน้านี้หน่อยและท่าทางเราจะชอบเรื่องนี้มากสุดในเล่มแหละ แต่สำหรับลอลี่แล้วเลิฟซีนไม่มีวอร์ม ฮอตระดับนึงเลยทีเดียว 

แม้สำหรับเราพระเอกสี่คนของวินสตั้นไม่มีคนไหนที่ดึงดูดใจคนอ่าน(อย่างเรา)เลยเหอะ รู้สึกลอกแบบกันมาเป๊ะและเบๆมาก ส่วนนางเอกทั่วๆไปอ่ะไม่มีไรพิเศษที่จะทำให้เรารู้สึกชอบได้ แต่เล่มนี้ออกแนวพาราฯหน่อยๆนะ(น่าจะใช่)เพราะเรื่องที่สองพระเอกฟังความคิดนางเอกได้และนางเอกเองติดต่อพูดคุยกับผีได้ ส่วนเรื่องสุดท้ายพระเอกมีเซ้นหน่อยๆกับการรับรู้เหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้น
หลังจากได้อ่านของลอลี่ ฟอสเตอร์ เล่มที่เราชอบมากที่สุดก็คงเป็น เกินห้ามใจรัก อยู่ดี รู้สึกเล่มนั้นจะน่ารักสุดๆแล้ว

20 กันยายน, 2555

รักแท้ไม่แปรผัน Double Standards – by…..Judith McNaught




- รักแท้ไม่แปรผัน Double Standards – by…..Judith McNaught
- สำนักพิมพ์ ภัทรา(เกรซ)
- หนังสือแนว contemporary romance
- ผู้แปล ปรียามน
- จำนวนหน้า 400 หน้า



ปกภาษาอังกฤษ


รักแท้ไม่แปรผัน Double Standards – by…..Judith McNaught

รักแท้ไม่แปรผัน Double Standards – by…..Judith McNaught
หยิบงานเล่มนี้ของจูดิธมาอ่านหลังจากกที่ไม่ได้อ่านงานของเธอมาพักหนึ่งแล้ว จริงๆเรื่องนี้มีพิมพ์ใหม่นะจากอีก สนพ หนึ่งแต่เราไม่ได้ซื้อเล่มพิมพ์ใหม่แต่ตามหาเล่มพิมพ์เก่าเล่มนี้แทน ก็คงต้องบอกว่าพอได้อ่านชอบมากกกก เล่มนี้ทำเอาเราเสียน้ำตาอีกแล้วเพราะอินจัดมากไปหน่อยกับพล็อตเรื่อง แม้จะเป็นหนังสือเล่มบางๆอ่านไม่นานก็จบแต่อารมณ์ในเรื่องนี่สิมันมีให้คนอ่านสัมผัสได้ทุกอารมณ์เล่มนี้เลยขอลัดคิวมาลงรีวิวก่อนเลยนะเพราะอ่านแล้วทนไม่ได้ต้องรีบเขียนรีวิวเพราะจนถึงตอนนี้เราอ่านซ้ำไปสองเรอบแล้วสิแล้วก้เสียน้ำตาทั้งสองรอบทั้งในเรื่องอดีตในชีวิตของพระเอก และ เรื่องที่นางเอกต้องเจอหลังจากนั้นมันแบบว่า โอ้ว ว ว ว ได้อารมณ์เต็มๆ

การจบปริญญาโททางด้านดนตรีของลอเลนไม่สามารถจะทำได้ทุกอย่างๆที่ต้องการได้โดยเฉพาะเมื่ออาการเจ็บป่วยของพ่อมาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาลที่เธอต้องการจะหาเงินมาจ่าย และการที่ต้องเข้ามาสมัครงานในบริษัทของ ฟิลิป วิทเวอร์ธ ญาติที่ลอเลนจำได้ดีว่าในอดีตพวกเขาปฏิบัติต่อแม่และตัวเธออย่างดูถูกและเหยียดหยามเมื่อตอนที่ไปอาศัยอยู่กับพวกเขาชั่วคราวและธอคิดว่าการที่จะทำงานกับเขานั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอลำบากใจมากที่สุดแต่แน่นอนเมื่อมันเป็นคำขอร้องของพ่อและที่สำคัญลอเลนกำลังต้องการเงินเพื่อค่าใช้จ่ายในบ้าน  และข้อเสนอที่ญาติของลอเลนยื่นให้มานั่นก็คือเข้าไปสืบความลับของบริษัทคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดในตำแหน่งเลขานุการ

แต่สำหรับลอเลนแล้วเธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถจะทำอย่างที่ฟิลิปบอกให้ทำได้ดังนั้นทางเดียวที่ลอเลนจะหนีจากเรื่องยุ่งยากในครั้งนี้ก็คือการไปสมัครงานในตำแหน่งเลขาและทำให้แน่ใจว่าบริษัทคู่แข่งอย่างซินโคจะไม่มีทางรับเธอเข้าทำงานเด็ดขาด แต่การได้พบกับ นิค ซินแคลร์ผู้ชายที่ลอเลนคิดว่าเขาเป็นแค่เพียงวิศวกรธรรมดาๆนั่นทำให้เธอยอมรับตำแหน่งงานในบริษัทคู่แข่งอย่างซินโคและแน่นอนที่ความสัมพันธ์ของทั้งนิคและลอเลนย่อมมีมากขึ้น และการรู้ว่าแท้จริงแล้วนิค ซินแคลร์ คือเจ้าของซินโคไม่ใช่วิศวกรอย่างที่เธอเคยเชื่อนั่นทำให้ลอเลนอยากอยู่ให้ห่างจากเขาตลอดชีวิตแม้นั่นจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยก็ตาม ละสิ่งที่ทำให้ลอเลนเข้าใจนิคมากขึ้นก็คือเรื่องราวในอดีตของเขาที่หลังจากได้ฟังแล้วทำให้เธออยากบีบคอแม่เขาเลยทีเดียว(รวมถึงคนอ่านอย่างเราด้วย)และนี่เองที่ทำให้ลอเลนรู้ว่าแท้จริงแล้ว ญาติที่ส่งตัวเธอเข้ามาขโมยความลับจากบริษัทของนิคก็คือ(สปอยล์)พ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆของนิคเอง ...ที่ร่วมมือกันจัดการกับนิค

อ่านแล้วข้าใจนิคเลยนะว่าทำไมถึงไม่เคยจะสนใจผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาในชีวิตแต่กับลอเลน เขารู้ว่ามันต่างไป(เราว่านิคเป็นผู้ชายที่น่ารักม๊าวกกกกเลยสิน่า)จากนั้นและการที่รู้ว่าผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยคือคนที่หักหลังและเข้ามาเพื่อล้วงความลับไปให้คู่แข่งนั่นทำให้นิครู้สึกเหมือนโดนหักหลังอย่างรุนแรงซึ่งแม้ว่าลอเลนจะพยายามอธิบายแค่ไหนก็ตามตอนนี้อยากบอกว่าเข้าใจทั้งนิคและเข้าใจลอเลนเลย ตอนนี้เองที่ทำให้เราน้ำตาแตกไปอีกรอบจนจบเล่ม แบบว่าเฮ้ยยยแม้ทุกคนจะรุมประนามฉันแต่ฉันยังมีศักดิ์ศรีอยู่นะว้อยยยไรเง้ แต่อีกอย่างลอเลนเองก้มัวแต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยบอกๆๆๆนิคทีหลังแล้วกันว่าเธอคือใคร จนท้ายที่สุดนิคก็ได้รู้และมันก็สายไปเสียแล้ว แม้ที่สุดแล้วเรื่องทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีและนิคก็รู้ว่าแท้จริงแล้วลอเลนไม่เคยหักหลังเขาอย่างที่เขากล่าวหาและความผิดพลาดของนักสืบที่ได้ข้อมูลมานั้น(นักสืบทำงานได้ห่วยมากอย่างที่นางเอกบอกจริงๆแหละ)

แม้ว่านิคจะทำตัวร้ายกับลอเลนมากๆในช่วงที่เขารู้ความจริงและเข้าใจว่าลอเลนหักหลังเขานั้นตอนนี้เรากลับไม่เกลียดนิคเลยแหะแต่เข้าใจมากกว่าว่าทำไมเขาถึงโกรธและรู้สึกแบบนี้เพราะอะไร แต่จริงๆก็เสียดายที่บางตอนนะอยากอ่านต่ออย่างช่วงที่พระเอกรู้แล้วว่าลอเลนไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรกับฟิลิปไปเลยพอถึงตอนนี้แล้วก็ให้คนอ่านจิ้นกันไปเอาเองว่าจะเป็นไงต่อทั้งฟิลิปและแม่ของนิคไม่ได้กล่าวถึงต่ออีกเลยแอบเสียดาย และแม้เรื่องนี้พล็อตเรื่องเองจะเก่ามากๆๆๆพิมพ์ออกมาหลายปีแล้ว(ต้นฉบับออกมาเมื่อปี 1991) เรากลับไม่คิดว่าพล็อตเรื่องมันเก่าจนดูเชยและไม่น่าอ่านเลยสักนิดเพราะพล็อตน่าติดตามตลอดจนอ่านจบแล้วยังอยากอ่านอีกเลย(ขนาดนั้นเลยน่ะ)

13 กันยายน, 2555

รวมมิตรหนังสือของ Lisa Marie Rice




ช่วงนี้เขียนบล็อกถึงหนังสือที่ไม่ได้รีวิวต่อเนื่องหน่อยค่ะ มาถึงคิวของ Lisa Marie Rice นักเขียนที่เราเคยอ่านของเธอครั้งแรกคือ

ชุด มิดไนท์ 

                                 
  

 พล็อตเรื่องเราว่าโอเคแหละแต่สู้แชนน่อนไม่ได้นะสำหรับตัวเรา ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะสำนวนแปลที่บอกตรงๆเบื่อสำนวนเธอมาก แต่เลิฟซีนในเรื่องสิไม่ธรรมดา ก้ากกก แม้จะหื่นยังไงแต่พอเจอสำนวนแปลของเธอคนนี้ก็ส่ายหน้าไปหลายทีเหมือนกัน

และได้อ่านอีกทีคือเรื่อง...ล่ารักพิทักษ์เธอ


เล่มนี้ก็ยังเฉย แต่แปลโอเคนะ(ซึ่งคนแปลคนละคนกับชุดมิดไนท์) แต่เรื่องที่เราอ่านจบ แล้วอยากเขียนรีวิวมากๆก็นี่เลย เล่ห์ลับพิศวาสร้าย แต่นี่เป็นเล่มสองน่ะสิเล่มแรกตอนซื้อมาหมดซะงั้นเลยได้แต่เล่มสองมา(ซื้อมาดองไว้น่าจะตั้งแต่ปีที่แล้วๆนะถ้าจำไม่ผิด)แต่ไม่คิดจะหยิบมาอ่านเลยเพราะดองไว้นานเหมือนกัน

 


จนเมื่อไม่กี่วันก่อนหยิบเล่ห์ลับพิศวาสร้ายเล่มนี้มาอ่าน 
ไอ้หยา!!! มันสนุกกว่าที่คิดไว้นะ และที่สำคัญสำนวนแปลโอเคมาก แม้ว่าจะมีบางคำออกแนวยืดเยื้อไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าผ่านเลยแหละ ซึ่งหายากมากๆสำหรับที่นี่  และ เช่นเดียวกันที่ตอนนี้ก็ตั้งตารองานแปลของ ลิซ่า มารี ออกมาเพราะขาดช่วงนานเหมือนกัน

รวมมิตรหนังสือของ Shannon McKenna




ช่วงนี้อยากอ่านงานของแชนน่อน แมคเคนน่า มากกกกกก แต่เล่มแปลไม่ออกเลยสักทีเงียบกริบเลยหลังจากได้อ่านงานของแชนน่อนเล่มแรกคือ เพลิงรักคืนใจ แค่เล่มเดียวเราก็กลายเป็นแฟนหนังสือของแชนน่อนไปเลย



 และยิ่งได้มาอ่านชุด แม็คคลาวน์ เล่มที่แปลออกมาแล้วคือ แผนสยบรัก/ตามพิทักษ์รักเธอผู้เดียว / หวามหัวใจพีไอหนุ่ม(สองเล่มหลังนี้เราไม่ได้รีวิวค่ะช่วงนั้นอ่านจบแล้วขี้เกียจมาก) เรายิ่งติดหนึบเข้าไปอีก                                                                             

 




และตามด้วยล่มเดี่ยวๆอีกหนึ่งเล่มคือ .ราตรีระเริงไฟ.หลังจากอ่านมาหลายเล่ม ตอนนี้เราแอบให้คะแนนแชนน่อนนำโด่ง มากกว่าลินดา โฮร์เวิร์ด ด้วยซ้ำ เพราะพล็อตสนุก การดำเนินเรื่องน่าติดตาม ตัวร้ายมีมิติดี อ่านแล้วได้ลุ้นพลาดไม่ได้เลยเชียวล่ะ และที่สำคัญพระเอกอัลฟ่า ถูกใจมากกกกกก คือแบบมันต้องแบบนี้อ่ะ อัลฟ่าได้ใจ
ใครที่อ่านลินดาแล้วชอบเราอยากให้ลองอ่าน แชนน่อน เลยค่ะแล้วจะวางไม่ลง 

เสียดายที่งานของเธอออกมาน้อยจัง เล่มแปลขาดหายไปนานไม่มีออกมาเลย อยากอ่านแบบต่อเนื่องจริงๆ รีวิววันนี้จริงๆเพื่อกระตุ้น สนพ ค่ะว่าอยากอ่านงานแชนน่อนแล้ว กรั๊กๆ แถมสองเล่มในชุดแม็คคลาวน์ที่เราอ่านจบไปนานแล้ว ไม่ได้รีวิวเลยจัดการเก็บรีวิวหนังสือแชนน่อนให้ครบเสียหน่อยแนะนำจริงๆนะสำหรับงานของแชนน่อน เชียร์ออกนอกหน้ามาก เพราะเราชอบมาก 55555+


08 กันยายน, 2555

เทพบุตรสุดปรารถนา Master of Desire - by Kinley MacGregor



- เทพบุตรสุดปรารถนา Master of Desire - by Kinley MacGregor 
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
-หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล จิตอุษา
- จำนวนหน้า 707 หน้า



เทพบุตรสุดปรารถนา Master of Desire - by Kinley MacGregor 

ได้อ่านชุดนี้มาสี่เล่ม เทพบุตรแดนเถื่อน / เทพบุตรบาป / เทพบุตรทระนง (รวมถึงเล่มนี้) จะบอกว่าไงดีอ่านแล้วก็คิดว่าอะไรมันจะสเตปเดียวกันขนาดนี้คาแร็คเตอร์พระเอกลอกกันมาเป๊ะๆเลยเหมือนทุกเล่มที่ผ่านมาแหะ เหมือนไม่มีมุขใหม่ๆเขียนซะงั้นแหละเชอริรีนปมชีวิตพระเอกก็ดราม่าในแบบชักจะน่ารำคาญแล้วนะจะอะไรนักหนาคะเมริงขยันโทษตัวเองกันจังเลยโทษแบบไม่ลืมหูลืมตากลัวไปหมดปีศาจอย่างฉันจะรักใครไม่ได้ อยู่ใกล้ใครไม่ได้ เพราะอดีตมันตามหลอกหลอนเหลือเกิน ป๊าดดดดด ก็เข้าใจอ่ะนะว่าพี่เจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะ แต่มุขนี้ทุกเล่มก็ไม่ไหวนะคะมันเอียน เลี่ยน กับปมปัญหาชีวิตในอดีตที่ฝังอยู่ในทุกเศษเสี้ยวของความคิดคุณพี่พระเอกเนี่ย(=_=”)

จากการที่หาตัวคนเริ่มโจมตีปราสาทของอีกฝ่ายก่อนไม่ได้ทั้งดราเวน เอิล์ลที่สี่ แห่ง ราเวนส์วูด และ ฮิวจ์ ศัตรูที่ดราเวนไม่เคยจะชอบหน้า และเพื่อยุติการความขัดแย้งในครั้งนี้กษัตริย์ เฮนรี่ มีรับสั่งให้ทั้งสองคนจะต้องเดิมพันด้วยสิ่งที่รักที่สุดของตนเองนั่นคือดราเวนจะต้องไปรับตัวลูกสาวของศัตรูไปอยู่ในความคุ้มครองที่ปราสาทของเขาเป็นเวลาหนึ่งปี และดราเวนก็ต้องให้คำสัตย์ว่าจะไม่แตะต้องนางไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่งซึ่งแน่นอนเขาแน่ใจว่าจะไม่มีวันแตะต้องลูกสาวของศัตรูที่เขาเกลียดอย่างแน่นอน และ ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะชอบหรือไม่กับการที่จะต้องเอาตัสลูกสาวของฮิวจ์มาอยู่ที่ปราสาทของเขาแต่นี่ถือเป็นหลักประกันเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ฮิวจ์เลิกย่ำยีผู้คนของดราเวน และ เขาจะยอมทำสิ่งต่างๆเพื่อปกป้องผู้คนของขาแม้เขาจะไม่ชอบมันเลยก็ตามแม้เขาจะรู้ดีว่าคำสาปที่ติดตัวเขามาจากในอดีตนั้นจะทำให้เขากลายเป็นปีศาจร้ายในสักวัน

หลังจากได้มองเขาเป็นครั้งแรกเอมิลี่ก็ไม่สามารถหยุดคิดถึงเอิร์ลแห่งราเวนวูดได้และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนางรู้ว่าจะต้องเดินทางไปอยู่ในความคุ้มครองที่ปราสาทของเขาเป็นเวลาหนึ่งปีเอมิลีก็รู้ทันทีว่าเขานี่แหละคือคนที่จะมาเป็นสามีของนางในสักวันหนึ่งและไม่ว่ายังไงนางก็ต้องแต่งงานกับเขาให้ได้ แม้ว่าหลังจากนั้นดราเวนจะคอยกกันนางออกไปและพยายามอยู่ให้ห่างหรือแม้แต่สนใจนางเลยแต่เอมิลีรู้ดีว่านางจะไม่มีวันยอมแพ้ พระเอกก็ตามสเตปเดิมคือทำเป็นไม่สนใจ ไม่แคร์ และ ยิ่งพยายามอยู่ให้ห่างจากนางเอกมากเท่าไหร่สิ่งนั้นก็ยิ่งยากสำหรับดราเวน การที่พบว่านอกจากน้องชายเขาแล้วเอมิลีนางไม่กลัวและยังกล้าท้าทายยั่วโมโหเขานั้นทำให้เขาประหลาดใจ (มากมั้ย!!)และเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นนางเศร้าโศรกเสียใจซึ่งมันไม่ใช่เรื่องอะไรของเขาแม้แต่น้อย

เรื่องนี้นางเอกจะเป็นฝ่ายเปิดเกมส์บุกใส่พระเอกตั้งแต่แรกๆเลย นางเอกหมามั่นปั้นมือมากว่านี่แหละคือคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยให้ได้ถึงกับต้องมีการวางแผนเรียกร้องความสนใจกันเลยทีเดียวโดยได้รับความร่วมมือจากไซม่อนและคนรับใช้ของเอมิลี(ที่แก่ประสบการณ์)ฉากที่ไปแอบดูพระเอกอาบน้ำเราว่าฮาดี แต่ โดยรวมในเรื่องเราก็ว่าพล้อตไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่เลยนะอย่างที่บอกพล็อตคาดเดาได้เพราะมันคล้ายกันเหลือเกินกับสามเล่มที่ผ่านมามันเลยเหมือนไม่มีอะไรให้ลุ้นเท่าไหร่เลยน่ะ แถมบางทีเวิ่นเว้อเยอะไปด้วยซ้ำ ตอนแรกรำคาญนางเอกที่ชีจะเปิดเกมส์บุกอะไรนักหนา แต่พอนานไปเรารำคาญพระเอกมากกว่าเวิ่นเว้อตีอกชกตัวอยู่นั่น โถ พ่อพระเอก ไหวป่ะแกร๊!! อ่านไปอ่านมาเราว่าเชอริลีนจงใจเขียนปมปัญหาของพระเอกแบบพยายามยัดเยียดความรันทดมากไปนะ มันเลยดูน่ารำคาญคือเข้าใจว่าพยายามจะโฟกัสไปที่พระเอกให้ดูน่าสนใจแต่บางทีมุขเดิมๆมาบ่อยๆก็เอียนอ่ะ 

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...