31 พฤษภาคม, 2555

ภารกิจพิชิตใจ CAUGHT – by….. Jami Alden



- ภารกิจพิชิตใจ CAUGHT – by….. Jami Alden
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว romancetic suspense
- ผู้แปล พิชญา
- จำนวนหน้า 324 หน้า
ราคาจากปก 245 บาท 


ภารกิจพิชิตใจ CAUGHT – by….. Jami Alden


หลังจากลุ้นอยู่หลายรอบจนขี้เกียจลุ้นว่าเล่มนี้จะออกหรือไม่ออกในที่สุดพี่ล่ำ(ของใครบางคน)ก็ได้เวลาปรากฏตัวแล้วแถมแอบดีใจที่ใช้ปกเหมือนปกอิงค์เพราะรู้สึกว่าปกที่ สนพ ออกแบบเองบางเล่มไม่โดนเลยแหะ แถมบางทีแอบเหมือนๆกันไปหมดเสียอีก(โดยเฉพาะปกย้อนยุคนี่แทบแยกไม่ออกว่าเล่มไหนเรื่องอะไร) ไม่อะไรมากมายแล้วสำหรับพี่ล่ำเล่มนี้พอมาถึงมือปุ๊บก็เริ่มสแกนกรรมเลิฟซีนก่อนเบาๆ 5555+แล้วถึงค่อยมาว่าด้วยพล็อตเรื่องกันหลังจากสแกนกรรมเลิฟซีนเสร็จเพราะได้ยินมาหนาหูเหลือเกินว่าร้อนจนเหงื่อแตกพลั่กๆมันก็เลยต้องพิสูจน์ก่อนอ่านกันหน่อย กร๊ากกกก ที่สำคัญนางเอกของเรื่องเธอชื่อแมนดีซึ่งไม่ค่อยได้เห็นมากนักที่นางเอกจะชื่อเหมือนผู้ชาย(บอกไม่ถูกว่าชอบหรือไม่ชอบ)

คำว่าหนุ่มเจ้าสำอางค์สำหรับอีธาน แท็กการ์ท แห่งเจมินายซิเคียวริตี้ บริษัทรักษาความปลอดภัยที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นมากับพี่ชายอีกสองคน ไม่สำคัญว่าขาจะชอบหรือไม่กับคำว่าหนุ่มเจ้าสำอาง แต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าของพวกเขาต้องการ การรักษาความปลอดภัยแบบลับๆเจมินายซิเคียวริตี้ก็พร้อมจะจัดการให้แม้ว่าอีธานไม่สามารถลืมอดีตที่คอยตามหลอกหลอนซึ่งเปรีบยเสมือฝันร้ายที่ค้างคาไม่ยอมจบสิ้น แต่เรื่องนั้นขาสามารถจัดการได้ และตอนนี้ลูกค้าคนดังรายล่าสุดของเจมินายต้องการให้พวกเขาสืบหาตัวลูกสาววัยสิบเจ็ดปีที่หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอยและแน่นอนพวกเขาต้องสืบหาให้ได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้สิ่งที่อีธานยากจะรับมือก็คือการที่เขาพบ โทนี่ ครอว์ฟอร์ด นักสืบเอกชนคนหนึ่งที่เขาไม่สามารถหว่านเสน่ห์ใส่เธอได้เหมือนคนอื่นๆและอีธานรู้ดีว่านับจากนี้การพบกันของเขาและเธอจะไม่มีทางสงบเยือกเย็นอย่างเช่นปฏิกิริภายนอกที่แสดงออกมาเพราะอีธานรู้ดีว่าภายใต้ท่าทางที่เรียบเฉยนั้นโทนี่มีความร้อนแรงซ่อนอยู่


สำหรับโทนี่ ครอว์ฟอร์ด การเป็นนักสืบบางเวลางานเฝ้าติดตามก็แสนน่าเบื่อโดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวข้องกับการนอกใจคู่สมรสและการขอความช่วยเหลือจากคนที่ว่าจ้างเธอให้ตามสืบเรื่องการไปมีผู้หญิงคนใหม่ไม่สำคัญเท่ากับการที่ลูกสาววัยสิบเจ็ดปีของเธอหายตัวไปและแน่นอนที่โทนี่ต้องยื่นมือเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเต็มใจและเธอรู้ดีจะต้องหาตัวคาร่าเด็กสาวที่หายออกไปจากบ้านให้พบและโทนี่หวังว่าคาร่าจะไม่มีจุดจบเหมือนเช่นน้องสาวของเธอในอดีต แต่การทำงานร่วมกับ อีธาน แท็กการ์ท สำหรับโทนี่แล้วมันคือหายนะชัดๆแค่การได้สบตาของเขาก็ทำให้เธอเข่าอ่อนแทบยืนไม่ไหวเสียแล้วแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการตามหาตัวคาร่าให้พบก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

การที่เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งการอยู่ต่อหน้าพ่อแม่คือเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ แต่เบื้องหลังของเด็กเรียบร้อยคนหนึ่งคือการถ่ายภาพเปลือยของตัวเองและโพสลงในอินเตอร์เนต เพื่อหลุดจากกรอบของคำว่าเด็กดีตั้งใจเรียน รวมถึงการเป็นสมาชิกของ วี – คลับ เครือข่ายสำหรับกลุ่มที่สาบานไว้ว่าจะรักษาพรมจรรย์จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวคนหนึ่งในตอนนี้โทนี่เชื่อว่าคาร่ากำลังเข้าไปพัวพันกับบางอย่างที่อันตรายและเริ่มซับซ้อนมากขึ้นทุกทีและการสืบหาข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องที่รอไม่ได้และการเข้ามาสืบในเรื่องนี้ทำให้โทนี่ตกเป็นเป้าของการพยายามฆ่าจากใครบางคนที่ไม่สามารถระบุตัวได้และยิ่งไปกว่านั้นความผูกพันธ์ทางอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่ออีธานมันล้ำลึกเสียจนโทนี่ไม่สามารถอธิบายได้

และสุดท้ายคนที่รู้ดีที่สุดว่าคาร่าหายตัวออกไปจากบ้านและตกอยู่ในมือของใครก็คือ(สปอยล์)..พ่อของคาร่าเอง...จากฝีมือของศัตรูของเขาเพื่อจะแลกกับการสร้างอาวุธชีวะภาพบางอย่างเพื่อแลกตัวคาร่าจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่จับตัวเธอไป..และเมื่อทุกอย่างจบลงเขาจะรีบหนีไปให้พ้น

หลังจากพยายามอ่านให้จบ(ต้องใช้คำว่าพยายามกันเลยทีเดียว)บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังกับพล็อตเรื่องนิดนึงแฮะ สำหรับเราอ่านครึ่งเล่มแรกเราจูนไม่ติดกับพล็อตเลย และ ยิ่งอ่านๆไปสำหรับเรามันไม่หนุกเท่าไหร่เลยยอมรับว่าเลิฟซีนฮอตค่ะและคุณพิชฯแปลได้ดีไม่มีตกหล่นไม่มีที่ติอยู่แล้วแต่พล็อตเรื่องเล่มนี้สำหรับเราไม่โดนใจ เหมือนมันไม่มีแรงกระตุ้นให้อยากอ่านต่อเลย(ยกเว้นเลิฟซีนนะ)เพราะสำหรับเราๆว่าออกจะน่าเบื่อค่ะเราไม่คล้อยตามเนื้อเรื่องเท่าไหร่เลย อีกอย่างทั้งหมดทั้งมวลในล่มมันไม่น่าเชื่อว่าเกิดขึ้นแค่เพียงสี่วันเท่านั้น แค่วันแรกที่พระเอก – นางเอกเจอกัน อ่านๆไปทำให้เราคิดว่า ทั้งหมดเนี่ยมันเกิดขึ้นในหนึ่งวันจริงๆนะไม่ใช่หนึ่งสัปดาห์!!และอีกอย่างคือคิดว่าคาแร็คเตอร์พระเอกจะดีกว่านี้แต่เราว่าเไม่ค่อยแตกต่างจากเรื่องอื่นๆเท่าไหร่

อีกอย่าง(สปอยล์)เราไม่เชื่อในตัวของพ่อคาร่าที่ว่าเป็นคนประดิษฐ์อาวุธชีวะภาพขึ้นมา และ คนที่มีความสามารถทำอาวุธชีวะภาพขนาดนี้แต่คิดน้อยไปนิดได้ขนาดนี้อ่ะนะ!แถมตัวร้ายจริงๆก็ไก่กามาก ไม่มีมิติที่ทำให้เชื่อว่าน่ากลัวเกรงเลยแม้แต่น้อย!.........ถึงจะไม่โดนใจเยอะแยะมากมายสำหรับเล่มนี้แต่เล่มต่อๆไปก็ทำให้เราอยากอ่านเรื่องของดีเร็ค และ แดนนี่  พี่ชายอีกสองคนของอีธานอยู่ดีและหวังว่าสองเล่มหลังนั้นจะทำให้เราติดหนึบและอ่านสนุกคล้อยตามมากกว่านี้ได้ค่ะและสำหรับเราเราว่า(ยืมคำพูดเพื่อนมา)แก้วกานต์มาถูกทางแล้วนะคะที่กล้าซื้อแนวนี้มาแปลแบบไม่กั๊ก ไม่ตัด ไม่หั่นให้เสียอารมณ์แถมแปลได้ดีมากเชื่อมือคุณพิชฯได้เลยและสำหรับเล่มแรกของชุดก็ถือว่าโอเคค่ะ

16 พฤษภาคม, 2555

รสสวาทสาวสองหน้า A Secret's Love - by Stephanie Laurens



- รสสวาทสาวสองหน้า A Secret's Love - by Stephanie Laurens

- สำนักพิมพ์ ฟองน้ำ

- หนังสือแนว historical aomance

- ผู้แปล พงษ์พิมล

- จำนวนหน้า 640 หน้า







รสสวาทสาวสองหน้า A Secret's Love - by Stephanie Laurens

หลังจากอ่าน อิโรติกต่อเนื่องกันมาหลายเล่ม รอบนี้ขอเบรคอารมณือิโรฯเยอะๆ ลดระดับลงมาแค่ฮอตๆก็พอไม่ถึงขนาดเบิร์น555+ ชีวิตนี้ขาดหื่นไม่ได้ฮ่ะ และนี่เป็นครั้งที่สองที่หยิบเล่มนี้มาอ่านค่ะ รอบแรกอ่านไปนานพอสมควรรอบรี้ทนไม่ได้เห็นเพื่อนอ่านแถมอีกอย่างช่วงนี้ไม่มีหนังสือแนวย้อนยุคใหม่น่าสนใจออกมาให้อ่านเลยเลยต้องกลับไปพึ่งของเก่านี่แหละ แม้ว่าจะเคยอ่านแล้วแต่พอหยิบมาอ่านรอบนี้ก็ยังชอบอยู่นะสำหรับงานของสเตฟานี ลอร์เลน เล่มนี้ a secret’s of love หรือชื่อไทยว่า รสสวาทสาวสองหน้า ชื่อไทยกิ๊บกิ้วพอดูเลยใช่ไหมล่ะ 555+ สำหรับชุดซินสเตอร์นี้เรามีไม่ครบชุดหรอกค่ะมีเป็นบางเล่ม บางล่มก็ยืมเพื่อนมาอ่านเอาเพราะรู้สึกหลายเล่มเกิ๊น!! อีกอย่างตอนนี้ขี้เกียจตามเก็บแล้วด้วย ยืมอ่านเอาง่ายกว่าเนอะ กรั๊กๆ

เมื่อ เลดี้อัลมิร่า แฮมิลตัน ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากสำหรับครอบครัวอีกครั้งหลังจากที่พ่อของหล่อนเอาบรรดาศักดิ์มาเสี่ยงและยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเรื่องเกินความคาดหมายที่อัลมิร่ารู้ว่าครั้งนี้เธอจะยอมเสี่ยงให้เรื่องราวที่กำลังกลัวเกิดขึ้นได้หล่อนจะต้องหาทางยับยั้งและเพื่อไม่ให้ครอบครัวของหล่อนต้องมาเสี่ยงกับพวกหลอกลวงต้มตุ๋นอย่างบริษัทค้าทองที่แทบไม่มีตัวตนและหนังสือสัญญาที่พ่อหล่อนต้องจ่ายหนี้ก้อนโตซึ่งนั่นคือจำนวนที่มากกว่าทรัพย์สินที่ครอบครัวหล่อนมี และทางเดียวที่อัลมิร่าหวังไว้ว่าคนที่จะสามารถช่วยหล่อนในเรื่องนี้ได้โดยไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ การขอความช่วยเหลือจากโรเบิร์ต ดาร์ซี่ รอว์นสเวน ผุ้ชายที่หล่อนรู้จักเขาดีมาแทบทั้งชีวิตเพื่อนเล่นในสมัยเด็กของหล่อน
 แม้ว่าการพบกันในแต่ละครั้งนั้นจะมาพร้อมกับวาจาที่เชือดเฉือนของทั้งสองคน แต่อัลมิร่ารู้ดีว่าการไปขอความช่วยเหลือจากดาร์ซี่หล่อนจะบอกความจริงให้เขารู้ไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วหล่อนคือใครและศักดิ์ศรีที่ยังพอมีเหลืออยู่น้อยนิดอัลมิร่าไม่ต้องการเห็นสายตาสมเพชเวทนาของเขาและการสวมบทบาทของเคาน์เตสที่แต่งงานแล้วและอดีตสามีที่เพิ่งเสียไปเป็นละครที่อัลมิร่าจัดฉากขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือและเขาจะไม่มีวันได้รู้ว่าแท้จริงแล้วหล่อนคือใครเมื่อเรื่องนี้จบลงเคาน์เตสก็จะหายสาบสูญไปไม่เหลือร่องรอยให้เขาแม้แต่จะคิดสงสัยและคำสาบานที่หล่อนได้ทำขึ้นนั้นมันเป็นอีกทางที่จะปิดประตูสู่การค้นหาตัวเคาน์เตสผู้ลึกลับ

สำหรับ โรเบิร์ต ดาร์ซี รอว์นสเวนย์ เขาออกจะแปลกใจมากเสียทีเดียวเมื่อได้รับการติดต่อจากเคาน์เตสผู้ลึกลับที่ต้องการการช่วยเหลือจากเขาโดยที่หล่อนให้เหตุผลในการเจาะจงที่จะต้องเป็นเขาก็คือเชื่อเสียงในการเปิดโปงพฤติกรรมแก๊งต้มตุ๋นและหล่อนบอกเขาว่าขาคือ รอว์นสเวนย์ คนหนึ่งที่ชอบเรื่องท้าทายและสำหรัยดาร์ซี่เองเขาการได้เห็นเคาน์เตสผู้ลึกลับทำให้เขาชักสงสัยขึ้นมาว่าตัวตนและท่าทางของหล่อนช่างคุ้นตาเขานักและดาร์ซี่ต้องการที่จะค้นหาประวัติของหล่อนเหลือเกินแต่สิ่งที่เขาได้ให้สัญญากับหล่อนทำให้เขาต้องสะกดกั้นตัวเองเอาไว้และที่สำคัญในตัวของเคาน์เตสผู้ลึกลับเขาพบความท้าทายที่น่าทึ่งในตัวหล่อนและการที่เขาได้พบและแตะต้องในตัวหล่อนทำให้สัญชาตญาณในตัวเขาเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและเขาไม่อาจจะทำเมินเฉยกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงแบบนี้ ดาร์ซี่บอกตัวเองว่าหล่อนจะต้องเป็นของเขาคนเดียวตลอดไป

การที่อัลมิร่าอยู่ใกล้ชิดกับดาร์ซี่มากขึ้นเท่าใดหล่อนก็ตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ที่เขามีต่อเคาน์เตสไม่เคยเกิดขึ้นเวลาเขาอยู่กับอัลมิร่าทั้งคู่ทนอยู่ใกล้กันไม่เคยได้ด้วยซ้ำความรู้สึกประหลาดกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นมาตั้งแต่ในอดีตและสาเหตุของอาการหนาวๆร้อนๆจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่สำหรับทั้งสองคนแต่ในฐานะเคาน์เตสสำหรับหล่อนแล้วเขาคือความกระหายดบเถื่อนที่หล่อนต้องการและยากที่จะปฏิเสธเวลาใกล้ชิดกับเขาและเหตุนี้เองอัลมิร่าต้องจบเรื่องที่หล่อนกุขึ้นมาให้จบลงอย่างเร็วที่สุดเพราะยิ่งอยู่ใกล้เขามากขึ้นเท่าไหร่หล่อนก็ยิ่งควบคุมตัวเองได้น้อยลงทุกที
แต่....ไม่ต้องก็พอจะเดาได้ว่าสุดท้ายแล้วดาร์ซี่ก็รู้ความจริงเกี่ยวกับความลับเคาน์เตสลึกลับกับอัลมิร่าอยู่แล้วและพระเอกไม่ท่ามากหรือเข้าใจอะไรยากๆดีแต่นางเอกสิที่ค่อดเล่นตัวช่วงท้าย กรั๊กๆ เล่มนี้แม้ว่าชื่อไทยจะส่อว่าชื่อชื่ออกน่ากลัวไปหน่อยแต่สนุกค่ะเราชอบนะ แม้บางช่วงแอบอืดๆไปหน่อยแต่หยิบมาอ่านครั้งที่สองก็ทำให้หายคิดถึงแนวย้อนยุคไปได้เยอะเลย เพราะตอนนี้หนังสือ(แปล)ที่ออกใหม่ มีแต่พาราฯเกลื่อนเลยเราเอียนค่ะบอกตรงๆ อยากได้แนวย้อนยุคกลับคืนมาบ้าง ใครที่ชอบงานย้อนยุคและสเตฟานี ลอร์เลนเรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้ผิดหวังนะคะ แต่เล่มแปลอาจหายากนิดนึง

14 พฤษภาคม, 2555

รักเร้น – by…..เทรซี่ อวาโร





รักเร้น – by…..เทรซี่ อวาโร



หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบเราก็คิดอยู่ว่าจะลงรีวิวดีไหมเพราะเนื้อหาของหนังสือค่อนข้างที่จะแรงเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าเป็นหนังสือที่เราได้อ่านอีกเล่มหนึ่งเท่านั้น เก็บลงบล็อกไว้จะได้ไม่ลืมว่าเคยอ่านแล้วละกัน อิ อิ เพราะเป็นอิโรติก BDSM แบบเต็มรูปแบบ ประมาณ โซ่ แส้ กุญแจมือ ความเจ็บปวดทั้งหลายแหล่ หรือ ทุกที่ หรือสถานการณ์ ที่โอกาสอำนวย ก็จัดเต็มกันไป ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น อะไรเทือกๆนี้ สำหรับเล่มนี้เพื่อนส่งมาให้อ่านค่ะ ขนาดเราอ่านแล้วยัง อืมมม!นะ (ไม่ได้หมายความเราหรือเพื่อนเราจะจิตนะฮ่ะ ที่อ่านหรือมีหนังสือประมาณนี้เอ๊ะหรือจิตชักไม่แน่ใจกร๊ากก)และที่สำคัญเล่มนี้ไม่ใช่นิยายโรมานซ์ และอย่าพูดถึงเรื่องพล็อตเพราะไม่ได้เน้นที่พล็อตแน่นอนอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าจะไม่มีพล็อตอะไรดำเนินเรื่องเลย มีค่ะและแม้ขนาดเราอ่านจบเล่มไปแล้วยังไม่แน่ใจเลยว่ามันจบจริงๆชิมิ  555+ แต่อ่านแบบไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้วก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่


แม้ว่าในการทำงานดีเจในสถานีวิทยุของเอพริล ซานเซส จะเป็นมืออาชีพมากแค่ไหน รายการที่เธอทำจะได้รับความนิยมเพียงใดแต่การถูกย้ายเวลาให้ไปจัดรายการในช่วงดึกที่แทบไม่มีคนฟังและผู้จัดการสถานีให้เหตุผลพียงแค่ต้องการภาพพจน์ของนักจัดรายการที่ดีกว่านี้ หรือ ดีกว่าภาพพจน์ของเพริล และเอพริลเองก็รู้ดีว่าการมามาทำงานสายของเธอในระยะหลังนี่เองที่มีส่วนทำให้รายการที่ทำอยู่ต้องหลุดมือไปนั้นเพราะคู่รักของเธออย่างแดน ลอเรน ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายที่เอพริลจะมาทำงานให้ทันเวลา แต่สำหรับตอนนี้นั่นไม่สำคัญแล้วล่ะเมื่อรายการที่เอพริลกำลังทำอยู่กำลังจะตกไปอยู่ในมือของ คีราน ฮาร์ท และ(เธอก็คิดว่าคีรานนี่เองที่เป็นคนรายงานเรื่องการมาทำงานสายของเธอ)รายการที่เอพริลคิดว่ามันเป็นของเธอ เเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือ กำลังหลุดไปอยู่ในมือของคนที่เธอแทบอยากจะฆ่าให้ตายในฐานะที่เขากล้ามาแย่งรายการของเธอไปและในเมื่อเธอจะต้องย้ายไปจัดรายการในช่วงดึกที่แทบไม่มีใครตื่นมาฟังเลย เอพริลก็คิดว่าถ้าจะต้องขุดรายการนี้ขึ้นมาจากหลุมศพเธอก็จะทำแม้จะต้องเรียกว่าปลุกผีขึ้นมาจากหลุมก็เถอะ

และตอนนี้เอพริลก็ทำได้อีกครั้งเมื่อรายการคนแปลกหน้ายามราตรีกำลังไปได้สวยแต่สิ่งที่มาพร้อมกับรายการก็คือผู้บุกรุกที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเอพริลพร้อมจดหมายปริศนามีรูปและสัญลักษณ์บางอย่างพร้อมเลข ที่เริ่มนับถอยหลังสู่วันที่สถานีวิทยุต้องทำการต่อสัญญาฉบับใหม่นั่นทำให้เอพริลต้องร่วมมือกับ คีราน ฮาร์ท เพื่อสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด แต่...สิ่งที่เอพริลต้องเผชิญในการหาตัวคนๆนั้นกลับทำให้เธอชื่นชอบสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวตนและเพิ่งค้นพบว่าเธอชอบมันเพียงใด แม้ว่าเธอจะร่วมมือกับคีรานในเรื่องนี้แต่เขาเองกลับเหมือนจะเข้าไปพัวพันและเขาคือผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง นั่นทำให้เอพริไว้ใจใครไม่ได้เลย

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเรื่องนี้พล็อตอย่าได้สนใจอะไรนักเพราะหลักๆคือเซ็กที่ร้อนแรงและดิบเถื่อนแต่อย่างน้อยการมีพล็อตก็ยังทำให้การผูกเนื้อเรื่องดำเนินไปได้แม้จะแบบมึนๆงงๆ โรมรันพันตูไปหน่อยแต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันคืออิโรติกจริงๆ เรื่องนี้นางเอก(เรียกว่านางเอกได้ไหม)ชีจะแรงไม่มีปิดบังกระมิดกระเมี้ยนจนคนอ่านระทมว่ามันจะเยอะไปมั้งเนี่ย สำหรับการอ่านหนังสือเล่มหนึ่งนั่นคือได้รู้อะไรใหม่ๆแต่จะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งส่วนตัวเราอ่านเรื่องนี้แล้วบางทีก็ข้ามๆไปบ้างบางช่วงที่มัน....อืมมมมหนักจริงๆ เพราะมี(เกือบ)ทุกอย่างที่ BDSM พึงมี  อ่านแล้วแอบอยากอ้วกก็มี(อันนี้จริงๆ)กร๊ากกกกกก ถ้าใครอยากลองหามาอ่านก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านค่ะ เพราะสำหรับเราอ่านจบแล้วก็จบกันไม่ได้เอามาคิดว่ามันจะเป็นยังไงทำไมถึงหยิบหนังสือประมาณนี้มาอ่านอยากอ่านก็คืออยากอ่าน จริงๆอยากรู้ชื่อจริงของนักเขียนนะคะแต่(เพื่อน)หาแล้วไม่เจอเลยไม่รู้ว่าเรื่องจริงๆและตัวนักเขียนจริงๆชื่ออะไร แถม สนพ (ที่แปล)ก็ปิดตัวลงไปแล้วด้วย เพราะงั้นใครรู้ข้อมูลช่วยไขเรื่องชื่อนักเขียนและชื่อเรื่องให้เรากระจ่างแจ้งทีค่า แฮ่ๆ

12 พฤษภาคม, 2555

ไฟรักเจ้าอัคนี Witch Fire – by…..Anya Bast

- ไฟรักเจ้าอัคนี Witch Fire – by…..Anya Bast
- สำนักพิมพ์ คริสตัลพลับลิซชิ่ง
- หนังสือแนว Paranormal Romance
- ผู้แปล เอวิต้า
- ราคาจากปก 279 บาท / ราคาสมาชิก 224 บาท
- จำนวนหน้า 271 หน้า



ไฟรักเจ้าอัคนี Witch Fire – by…..Anya Bast

ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ลองอ่านงานของนักเขียนใหม่ๆค่ะ สำหรับเล่มนี้เป็นครั้งแรกเช่นกันกับงานของ Anya Bast ที่เป็นแนว อิโรติกผสมพารานอมอลและ แฟนตาซี ตอนแรกเปิดอ่านไปได้หน่อยกะจะไม่อ่านต่อแล้วเพราะช่วงนี้เบื่อกระแสแนวพาราฯแฟนตาซีมากๆ แต่ในที่สุดก็ต้องหยิบมาอ่านต่อให้จบไม่ใช่ว่าสนุกมากหรืออะไรจนวางไม่ลงแต่มีความรู้สึกว่าถ้าอ่านไม่จบแล้วมันคาใจฮ่ะ เหมือนมีอะไรค้างคาในใจ 55555+ เลยต้องหยิบมาอ่านต่อจนจบ แต่จริงๆพล็อตเรื่องก็ไม่ได้อ่อนจนชวนให้น่าเบื่ออะไร จริงๆเป็นอีกโลกหนึ่งที่ทำให้รู้จักกับพ่อมดแม่มด มากขึ้น(ตามพล็อตเรื่อง)อ่านแล้วก็นึกอยากมีเวทมนต์ขึ้นมาบ้างเหมือนกันแหะ และแน่นอนที่เล่มนี้เป็นอิโรติกเพราะงั้นเลิฟซีนก็ต้องฮอตเป็นธรรมดาเพราะงั้นถูกใจเราแน่นอนและออกแนว BDSM บ้างเล็กๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบเลิฟซีนหนักๆ(หนักในที่นี้คือ เลิฟซีนเยอะนะฮ่ะ)ก็ผ่านไปเลยค่ะเล่มนี้การแปลโอเคระดับหนึ่งเลย แม้จะมีบางประโยคอ่านแล้วขัดๆบ้างนิดหน่อยหรือการสะกดคำบางคำผิดไปแต่โดยรวมถือว่าโอเคพอรับได้(สำหรับเรา)และเพราะเป็นพาราฯสมัยใหม่ทำให้เราไม่คิดมากในเรื่องการใช้คำสักเท่าไหร่

หลังจากการหย่าร้างไมร่าไม่คิดว่าอารมณ์ปรารถนาจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งและไมร่าก็รู้ดีเป็นบ้าว่าสำหรับผู้ชายที่มีบุคลิคอย่างเขาคงไม่มีทางมองผู้หญิงที่แทบไม่มีอะไรตรงกับรสนิยมของเขาแน่ๆแต่เขาคือคนที่ลักพาตัวเธอมาหลังจากเธอรู้ดีว่าภัยคุกคามบางอย่างได้เกิดขึ้นแม้บางครั้งตัวเธอเองจะรับรู้ว่ากำลังถูกจับตามอง สุดท้ายสิ่งที่ไมร่าไม่คาดคิดก็คือผู้ชายคนที่เธอแอบเก็บไปฝันคือคนที่พาตัวเธอมาโดยที่ไมร่าเองไม่คาดคิดว่าจะเป็นเขา และการที่เขาพาตัวเธอมาครั้งนี้ก็เพื่อจะปกป้องเธอให้ปลอดภัยซึ่งคำอธิบายของเขาไม่ได้ช่วยทำให้ความงุนงงที่มีอยู่หมดไปแต่อย่างใดสำหรับไมร่าแล้วแจ๊ค แม็คอลิสเตอร์ คือตัวอันตรายสำหรับเธอขนานแท้เชียวล่ะ

แจ๊ค แม็คอลิสเตอร์ เขามาที่นี่เพื่อปกป้องหล่อน ไมร่า แม่มดธาตุลมที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังพิเศษเหล่านี้วนเวียนอยู่ในร่างกายและแน่นอนหล่อนไม่รู้จักวิธีที่จะใช้มันนั่นเพราะหล่อนไม่รู้ตัวต่างหากว่าแท้ที่จริงแล้วหล่อนคือแม่มดที่มีความสามารถในระดับที่ศัตรูจ้องจะพาตัวเธอไปเพราะพลังพิเศษที่มีอยู่ในตัวเหมือนที่พ่อกับแม่ของไมร่าเคยเผชิญในอดีต และนั่นเป็นสิ่งที่เขาจะต้องอธิบายให้ไมร่าเข้าใจในภายหลัง แต่เขาจะบอกไมร่าได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนที่เห็นการจบชีวิตของพ่อกับแม่เธอในอดีตแต่เขาไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้เลยและนี่เป็นสิ่งที่แจ๊คโทษตัวเองเสมอมาที่ไม่สามารถช่วยบุคคลเหล่านั้นจากพิธีกรรมของมนต์ดำการเซ่นสังเวยที่พ่อของแจ๊คเองเป็นคนกระทำเพราะเหตุนี้เขาจึงหนีออกจากคฤหาสน์และนับจากนั้นเขาก็ทำงานให้กับโคฟเว่นเพราะเรื่องที่เกิดในวันนั้นทำให้แจ๊คไม่สามารถทนอยู่กับพ่อได้อีกต่อไปและการคุ้มครองไมร่าคืองานชิ้นที่สำคัญที่สุดของเขา

แน่นอนที่แจ๊ครู้ดีว่าการที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับไมร่าสำหรับพ่อมดธาตุไฟอย่างเขาและแม่มดธาตุลมอย่างไมร่านั่นคือสิ่งที่ดึงดูดระหว่างกันแต่เขาต้องพยายามอยู่ให้ห่างจากเธอให้มากที่สุด(ซึ่งนั่นไม่มีทางเป็นไปได้)และยิ่งไปกว่านั้นการที่จะสอนให้ไมร่ารู้จักวิธีใช้พลังพิเศษที่มีอยู่ในตัวนั้นเป็นเรื่องที่แจ๊คต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักเพราะแจ๊ครู้ดีกว่านั้นว่าเขาคือคนสุดท้ายในโลกนี้ที่คู่ควรกับไมร่าและมื่อไหร่ที่เขาพาตัวเธอไปส่งถึงโคฟเว่นและอยู่ในความดูแลของหัวหน้าซึ่งนั้นญาติของไมร่าที่เหลืออยู่เมื่อไหร่ความใกล้ชิดระหว่างเขาและเธอก็จะจบลงเมื่อนั่นแหน้าที่ของเขาก็หมดลงอย่างไม่ต้องสงสัยและนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่หรือแต่การอยู่ให้ห่างจากไมร่าสำหรับแจ๊คแล้วนั่นเป็นยิ่งกว่านรกที่เขาต้องเผชิญ

เรื่องนี้ช่วงท้ายที่นางเอกรู้ว่าป้าที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่พ่อแม่ตายถูกจับตัวไปเพื่อเป็นข้อต่อรองแลกตัวกับไมร่าแล้วไม่ยอมบอกแจ๊คเพราะกลัวว่าเขาจะปกป้องเธอมากเกินไปและไมร่าก็มั่นใจในพลังของตัวเองมากพอแต่สุดท้ายแล้วไมร่าก็พลาดท่าให้สเตฟานลูกเลี้ยงของเครนที่พ่อเขารับมาเลี้ยงเพื่อฝึกฝนและแทนที่ลูกชายตัวจริงของเขาที่หนีไปหลังจากเหตุการณ์ในอดีตและนั่นทำให้วิลเลียม เครนรู้ว่าแจ๊คลูกชายของเขาอ่อนแอเกินไป และ นี่ก็คือความลับที่ไมร่าคิดว่าแจ๊คปกปิดเอาไว้ที่เขาเป็นลูกชายของเครนและอยู่ในพิธีกรรมการฆ่าพ่อแม่ของไมร่าเมื่อในอดีตแต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอโกรธแจ๊ค แต่เธอโกรธที่แจ๊คเลือกที่จะปิดบังและโกหกเธอตลอดเวลาที่ผ่านมา(แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมดก็เถอะ)แต่ก็เข้าใจอารมณ์ของไมร่าแหละแต่..หลังจากนี้สิ วิธีการที่แจ๊คมาง้อไมร่ามันช่าง อืมมมมม น่าเบื่อตามสเตปแหะ

และตัวละครที่น่าสนใจในเล่มนี้ที่คาดว่าน่าจะมีเล่มของตัวเองนั่นก็คือ โธมัส โมนาฮัน หัวหน้าของแจ๊ค คิดว่าน่าสนใจมากเหมือนกัน (เล่มสองเจอกันนะโมนาฮัน อิ อิ )คนเขียนบรรยายคาแร็คเตอร์เขาไว้ซะอยากอ่านเลยและอีกคนที่เราว่าน่าสนใจก็คือ สเตฟาน นี่แหละแม้ว่าจะเป็นตัวร้ายแต่แอบคิดว่าตัวร้ายมันก็น่าสนใจดีเหมือนกันแต่นี่ก็เป็นเพียงเล่มแรกที่เปิดตัวมาโดยรวมก็น่าสนใจดีแม้หลายช่วงอ่านแล้วรู้สึกเยิ่นเย้อไปบ้างแต่นั่นก็ทำให้เราอยากอ่านเล่มต่อๆไปไวๆเหมือนกันและอยากให้มีเล่มสเตฟานจริงๆนะ อยากรู้ว่า anya จะเขียนให้เขา โหด เลว ดี ไหม

08 พฤษภาคม, 2555

นางบำเรอจอมเถื่อน The BarGain – By…..Julia Templeton


- นางบำเรอจอมเถื่อน The BarGain – By…..Julia Templeton
- สำนักพิมพ์ คริสตัลพลับลิซชิ่ง
- หนังสือแนว erotica-historical-romance
- ผู้แปล วัชรตา
- จำนวนหน้า 250 หน้า



นางบำเรอจอมเถื่อน The BarGain – By…..Julia Templeton

รอบนี้ก็ยังหยิบแนวย้อนยุคขึ้นมาอ่านอยู่ดีค่ะและเป็นครั้งแรกกับงาน ของ Julia Templeton ด้วยเช่นกันสำหรับเล่มแรกที่ลอง อืมม ต้องบอกว่าเวลาอ่านเล่มนี้อ่านไปก็คิดถึงอีกเล่มหนึ่งไม่ได้ที่มันพล็อตคล้ายกันซะจนนึกว่าอ่าน THE PRIZE  ของ จูลี่ การ์วูด  อยู่ซะอีกแต่....จะลำเอียงไหมถ้าจะบอกว่าความเข้มข้นของพล็อตสู้เดอะไพร์ซไม่ได้เลยแหะ แต่ถ้าเป็นความฮอตละก็แซงหน้ากันเลยทีเดียวก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วพราะเรื่องนี้เป็นอิโรติก โรแมนซ์ ย้อนยุค เพราะงั้นความร้อนแรงคะแนนนำโด่งฮ่ะ

เขากำลังมาและไม่มีใครหยุดเขาได้ ขณะที่อลีเซียจ้อมมองไปยังสนามรบด้วยความเดือดดาล และแม่ทัพชาวนอร์มังทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตว์ของพระเจ้าวิลเลี่ยมอย่าง เรโนด์ เดอ วูล์ฟ ผู้เหี้ยมโหดกำลังนำทัพใกล้เข้ามาเพื่อยึดครองดินแดนแห่งนี้ของครอบครัวนางและหลังจากนี้การที่น้องชายฝาแฝดของอลีเซียจะประกาศสิทธิ์เพื่อจะได้ที่ดินกลับคืนมาหลังจากที่ฆาตรกรชาวนอร์มังคนก่อนที่ได้สังหารพ่อแม่ของอลีเซียอย่างเลือดเย็นเมื่องสองปีก่อนประกาศสิทธิ์ถือครองและอีกนิดเดียวนางกำลังจะได้ที่ดินผืนนี้กลับคืนมาแต่ตอนนี้ความคิดอันน่าสะพรึงกลัวกำลังเกิดขึ้นกับอลีเซียอีกครั้งและอลีเซียจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นนางจะทำทุกทางเพื่อรักษาดินแดนแห่งนี้และรักษาชีวิตของอเดลสแตน น้องชายฝาแฝดของนางให้ปลอดภัยแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของนางก็ตามและตอนนี้มันก็ต้องเริ่มจากการสั่งสอนแม่ทัพนอร์มังอวดดีที่กล้านำทัพเข้ามายังบรีเมียเขตที่ดินของครอบครัวด้วยลูกธนูที่เกือบทำให้บารอนผู้นั้นเกือบทรุดลงไปกองกับพื้น

สำหรับเรโนด์แล้วการที่ถูกรอบโจมตีด้วยลูกธนูจากเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งก็คือคู่แฝดของอเดลสแตนกบฏที่เขาจับกุมตัวไว้นั่นเองและเรโนด์ตระหนักไว้ว่าเมื่อเขาจับกุมเด็กคนนั้นได้สิ่งแรกที่เขาจะทำคือหักคอเจ้าเด็กนั่นซะโทษฐานที่กล้ารอบทำร้ายเขา แต่สิ่งที่เรโนด์คิดไว้กลับทำให้เขาต้องประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าคู่แฝดที่เขาคิดไว้ว่าเป็นเด็กผุ้ชายกลับกลายเป็นสตรีเพศที่ทำให้ลมหายใจของเรโนด์สะดุดค้างและแค่มองดวงตาสีเขียวของนางก็แทบทำให้เขาหลงวนเวียนอยู่ในนั้นได้ตลอดกาล และตอนนี้นางกำลังอ้อนวอนขอให้เขาปล่อยตัวน้องชายฝาแฝดของนางไปท่าทางตอนนี้ทำให้เรโนด์คิดว่าช่างแตกต่างกันเหลือเกินกับคนที่พยายามยิงเขาด้วธนูเมื่อสักครู่นี้แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความปราถนาที่เขามี่ต่อนางลดน้อยลงไปเลยและการที่เขาได้รู้ว่านางต้องการจะหนีไปและขอความช่วยเหลือจากคู่หมั้นในสก็อตแลนด์เรโนด์ไม่คิดว่าปฏิกิริยาที่เขาเป็นั่นจะเรียกว่าความหึงหวงและความรู้สึกนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน

แม้การที่อลีเซียทำข้อตกลงกับเรโนด์เพื่อให้เขาปล่อยตัวน้องชายฝาแฝดนางไปจะทำให้นางหวาดกลัวอยู่ภายในใจแล้วแต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเรโนด์นั้นสำหรับอลีเซียแล้วเป็นเรื่องที่ยากอธิบายและไม่ว่านางจะคิดอย่างไรนั่นไม่สำคัญแต่การที่ช่วยชีวิตน้องชายตามแผนการที่นางคิดไว้นั่นสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใดนั่นอาจทำให้นางและน้องชายหนีไปให้พ้นจากพวกนอร์มังโหดร้ายนี้ได้และอเดลสแตนจะไม่ต้องตกเป็นเชลยในข้อหากบฏจากกษัตริย์วิลเลี่ยมได้อีกต่อไปซึ่งนั่นก็คืออลีเซียต้องวางยาเรโนด์แม้จะเป็นเพียงยานอนหลับแต่การที่จะเดินจากเขามันทำให้อลีเซียต้องเจ็บปวดเหลือเกิน และสุดท้ายพระเอกก็รู้ทันนางเอกจนได้ว่าอลีเซียแอบวางยานอนหลับและแกล้งจิบไวน์ผสมยาแล้วหลับไปเพื่อดูว่านางจะทำอย่างไรต่อไปและเป็นไปตามที่คาดไว้นางพยายามจะหนีไปพร้อมกับน้องชายและแน่นอนอลีเซียต้องได้รับการลงโทษจากเรโนด์ที่กล้าวางยาและคิดจะหนีไปจากเขา

อย่างที่พอจะเดากันออกใช่ไหมว่าสุดท้ายก็หนีไม่พ้นเงื้อมือของพระเอกหรอก แม้ว่าจะพยายามสักแค่ไหนและที่สำคัญความรู้สึกที่ทั้งสองมีให้แก่กันมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกขณะในเล่มนี้จะมีคู่รองด้วยนะคะอายุต่างกันพอสมควรไม่ต้องพูดถึงเรื่องความฮอตคู่นี้ก็ไม่แพ้คู่เอกอย่างเรโนด์และอลีเซีย แม้ว่าทั้งพี่สาวของพระเอก และ ทหารคนสนิทของพระเอกจะมีอายุต่างกัน อืมม ก็มากพอควร! แต่ไม่ได้ทำให้ความฮอตลดลงแต่อย่างใด และขอบอกว่าสำหรับพล็อตเรื่องอย่าไปคาดหวังมากว่ามันจะสนุกเข้มข้นอย่างที่เราอยากให้เป็นเท่าไหร่นักจะดีที่สุดค่ะ พล็อตอาจดูสับสน ครึ่งๆกลางๆ(และคิดว่าก็อปปี้พล็อตมาแบบเกือบเป๊ะๆ)แต่ถ้าอ่านเพื่อความฮอตอันนี้ตอบโจทย์เราได้เป็นอย่างดี และรอดูเล่มต่อไปค่ะเล่มหน้าจะเป็นเรื่องของ อเดลสแตน น้องชายฝาแฝดของอลีเซียที่ราหวังว่าพล็อตจะแน่นกว่านี้และความฮฮตจะยังคงอยู่หรือมากกว่าก็โอเค กร๊ากกกกกกกก สำหรับเล่มนี้เราถ้าจะให้คะแนนสำหรับพล็อตเรื่องให้  5.5 จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนคะแนนความฮอตให้ 8.5 จาก 10 เลยนะ กรั๊กๆ 

ที่ให้คะแนนเท่านี้เพราะทั้งคาแร็คเตอร์พระเอกเอก - นางเอก ไม่ค่อยโดนใจคนอ่านอย่างเราสักเท่าไหร่เลยแหะแถมพล็อตโดยรวมก็เนิบพอควรส่วนที่ถูกใจก็คงเป็นเลิฟซีนที่ฮอตทะลุปรอทพอสมควร และ 
สำหรับสำนวนแปลเล่มนี้โอเคนะคะแม้ว่าสำหรับเราคิดว่าแปลกๆในบางช่วง หรือบางคำ สำนวนโดยรวมแล้วก็โอเคเลยเหมือนกัน(แต่..คนเรื่องมาก เรื่องเยอะ อย่างเราอดไม่ได้ที่จะขอติบ้าง)ใครอ่านแล้วหรือกำลังจะอ่านลองดูนะคะเสร็จแล้วมาคุยกันได้ค่ะ




04 พฤษภาคม, 2555

แบดบอยยอดรัก I Love Bad Boys – by…Lori Foster / Janelle Denison / Donna Kauffman


- แบดบอยยอดรัก I Love Bad Boy – by…Lori Foster / Janelle Denison / Donna Kauffman
- สำนักพิมพ์ คริสตัลพลลับลิชชิ่ง
- หนังสือแนว อิโรติก - โรมานซ์
- ผู้แปล เจ.ศิวาพร
- ราคา 239 บาท
- จำนวนหน้า 239 หน้า


อันนี้เป็นปกอิงค์




แบดบอยยอดรัก I Love Bad Boy – by…Lori Foster / Janelle Denison / Donna Kauffman


อย่างที่เคยบ่นๆไปว่าอ่านแนววอร์มๆอุ่นๆมาหลายเล่มแล้วเพราะงั้นจึงต้องหาเล่มไหนที่มันร้อนๆมาอ่านบ้างไรบ้างสำหรับเล่มนี้เห็นปกในเวบสนพแล้วบอกตรงๆว่าไม่ดึงดูดใจให้ซื้อเลยค่ะ ปกนอกสายตาอย่างแรง เล่มนี้เป็นนิยาย(อิโรติกเหมาะกับคนหื่นๆอย่างเรา)เรื่องสั้นสามเรื่องของสามนักเขียนแม้จะเป็นเรื่องสั้นสำหรับพล็อตไม่มีอะไรมากมายเท่าไหร่และอย่าไปคาดหวังเรื่องพล็อตนัก แต่เรื่องฮอตรับรองวางใจได้และที่สำคัญการแปลของเล่มนี้โอเคมากค่ะ ไม่มีคำให้มาขัดหู ขัดใจ งานเล่มก่อนหน้านี้ที่เราได้อ่านงานแปลของเธอก็คือ(เล่มนี้ เพลิงรักคืนใจ / แชนน่อน แมคเคนน่า)เราว่าเป็นหนึ่งในนักแปลไม่กี่คนของที่นี่ ที่แปลแล้วไม่หงุดหงิดเวลาอ่านและสำนวนโอเคมากๆคนหนึ่งเลยล่ะและสำหรับงานของ Lori Foster ที่เราเคยอ่านตามนี้ค่ะ(นางแปลง สาวฮาเร็มแสนรัก / เกินห้ามใจรัก(ชอบเล่มนี้ที่สุดค่ะ) / รักเธอไม่เคยพอ(เล่มนี้น่าเบื่อที่สุด) )


พันธนาการรัก Indulge Me / Lori Foster

สำหรับเบกกี้ ฮาร์ท แล้วการที่จะเดินเข้ามาในร้านเซ็กช้อปครั้งแรกและคงจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตแม้ธอจะก้าวเข้ามาอย่างหวาดหวั่นเพราะภารกิจบางอย่างที่ถูกวางแผนโดยเพื่อนรักของเธอเอง และเบกี้รู้ว่าตอนที่เธอกำลังก้าวเข้ามาในร้านเซ็กช้อปแห่งนี้เพื่อนตัวดีทั้งสองคนกำลังจ้องมองมาและที่สำคัญตอนนี้เธอจะถอยหลังกลับไม่ได้จนกว่าจะได้เข้าไปในร้านและเลือกซื้อของบางอย่างตามที่พวกเธอได้มีข้อตกลงร่วมกันและสิ่งสุดท้ายที่เบคกี้ต้องการก็คือการที่จะต้องพบเจอคนที่เธอรู้จักระหว่างที่อยู่ในร้านนั้น และต้องไม่ใช่ผู้ชายผู้ชายที่คอยหลอกหลอนอยู่ในฝันของเบกกี้มาตลอดสองปี และเธอภาวนาขอให้ไม่ใช่เขา แต่ไม่ได้ผล เพราะเขากำลังยืนอยู่ที่นี่ ตรงหน้าเธอจริงๆ 
แม้ตลอดสองปีที่ผ่านมาเธอจะเก็บงำความรู้สึกที่มีต่อเขา และรู้ดีว่าชื่อเสียงแบดบอยของเขาทำให้เธอหวาดหวั่นแค่ไหน
แต่นั่นไม่สำคัญแล้วเพราะตอนนี้เขายืนอยู่กับเธอในร้านเซ็กช้อปและนั่นทำให้เบกกี้แทบอยากแทรกแผ่นดินหนี  หลังจากนี้ก็คงพอจะเดากันได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปและเรื่องบางอย่างที่เบกกี้ต้องพยายามปิดบังตัวเองไว้ไม่ว่าใครแม้แต่เพื่อนๆของเธอเองก็ไม่รู้เรื่องสิ่งที่เบกกี้เก็บงำปกปิดไว้มาตลอดหลายปีเพราะเธอแน่ใจว่าถ้าใครได้รับรู้ทุกคนจะต้องรังเกียจ แต่แน่นอนสำหรับพระเอกนั่นไม่สำคัญสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อยเรื่องแรกนี้น่ารักดีค่ะนางเอกสาวจิ้นกับการทดลองความกล้ากับการเข้าไปในร้านเซ็กช้อปและแอบชอบผ้ชายอย่างพระเอกมานานแต่ไม่แสดงอาการจนพอดีที่มาเจอพระเอกจังๆในร้านนี่แหละ 


ราตรีอวลรัก Naughty By Night / Janelle Denison

เรื่องที่สองในเล่มแล้วค่ะส่วนตัวอ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากกว่าเรื่องแรกแหะ(แต่เรื่องแรกก็น่ารักพอควรแหละ)พล็อตรวมๆน่าคล้อยตามมากว่านิดนึง(สำหรับเรา)ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของทั้งสองคน(พระเอก – นางเอก) แม้เวลาจะผ่านมากว่าหกปีแล้วมันกลับไม่ได้ลดลงเลยแต่มันกลับรุนแรงขึ้น


สำหรับเก๊บเขากลับมาเพื่อทำลายกำแพงของอดีตที่โคลอี้สร้างขึ้นและต้นเหตุทั้งหมดก็มาจากเขาเองและตอนนี้เขากลับมาเพื่อแก้ไขมันและขอให้เธอยกโทษให้เขาให้ได้เพราะเขารู้ว่าโคลอี้ต้องเจ็บปวดขนาดไหนแต่นั่นใช่ว่าเขาจะรู้สึกดีที่ทำอย่างนั้นในอดีต  สำหรับโคลอี้เวลากว่าหกปีที่เธอพยายามจะลบทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเก๊บออกไปจากหัวใจนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเมื่อเขยังคอยตามหลอกหลอนและฝังแน่นอยู่ในความรู้สึกเธอตลอดมาหกปีที่เขาเดินหนีจากไป แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้วรวดเร็วเหมือนพายุเฮอร์ริเคน เร็วชนิดที่โคลอี้ตั้งตัวไม่ติดเหมือนเขากลับมาเพื่อประกาศว่าเธอเป็นของเขาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม และการเดิมพันของทั้งสองคนก็เริ่มขึ้นสิ่งที่โคลอี้ต้องการเมื่อชนะพนันคือการที่เก๊บต้องทำตามความฝันของเธอตลอดภายในสี่วันที่เหลืออยู่ สำหรับเก๊บความฝันของเขาคือให้เธอเป็นของเขาตลอดไป


ถึงร้ายก็รัก …And When They Were Bad / Donna Kauffman

เรื่องที่สามสุดท้ายในเล่มนี้แล้วค่ะทั้งสามเรื่องสั้นกุดอ่านๆไปบางทียังแอบนึกในใจจะรีบจบไปไหนเนี่ย กร๊ากกกก บางทีมันก็เหมือนกินข้าวไม่อิ่มน่ะค่ะเพราะมันสั้นเกินรีบจบเกินแต่โอเคเข้าใจได้เนอะ สำหรับคาเมรอนแล้วผุ้หญิงที่เขาต้องการจะต้องมีผิวสีแทน รูปร่างเย้ายวนใจตั้งแต่หัวจดเท้าและการที่เขาหนีจากปัญหาที่มีอยู่รอบตัวเพื่อมาพักผ่อนที่คลับแห่งหนึ่งในทะเลแคริบเบียนคลับแห่งนี้ที่อ้างตัวเองว่ามีทุกสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันและแคมมรอนก็หวังว่าจะพบกับความสุขที่ว่าหลังจากที่เขาต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากมากมายในชีวิตและที่สำคัญเจอกับผู้หญิงที่เขาต้องการแต่สิ่งที่คาเมรอนคิดไว้เกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาต้องการนั้นกลับตรงข้ามไปเสียหมดเมื่อผู้หญิงที่เขาบังเอิญต้องไปเกี่ยวข้องด้วยระหว่างที่อยู่ที่คลับนั้นช่างแต่กต่างจากจินตนาการที่เขาเคยคิดไว้อย่างสิ้นเชิง

สำหรับแอลลี่เองการเดินทางมาที่คลับแห่งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเพื่อค้นหาความปราถนาและอารมณ์สุดเร่าร้อนที่ตัวเองพบว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลยและคลับอินทิเมซี่แห่งนี้คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดและการได้พบกับแคเมรอนหลังจากที่เขาได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอจากเหตุการณ์ที่เธอบอกกับเขาจริงๆแล้วตัวเองสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดีโดยที่ไม่ต้องมีเขายื่นมือเข้ามาช่วยสักนิดเดียวแต่การได้ใกล้ชิดแคมมันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดทั้งสองคนเข้าหากัน(ก็แหงล่ะสิยะ ชิส์!)และความฝันที่จะค้นหาอารมณ์สุดเร่าร้อนที่เคยคิดไว้ก็ดูจะไม่เลวนักเมื่อเป็นแคมที่มีเสน่ห์ทางเพศอันล้นเหลือ

ทั้งสามเรื่องก็น่ารักกันไปคนละแบบแต่อย่างที่บอกว่าชอบชอบเรื่องแรก และ เรื่องที่สองเกือบจะพอๆกันส่วนเรื่องที่สาม เอิ่มมมม มันแปลกๆ แต่ก็โอเคและต้องเข้าใจว่านี่คือ อิโรติก – โรมานซ์ เพราะงั้นเลยไม่ต้องคิดมากสักเท่าไหร่เรียกน้ำย่อยกันเบาๆแล้วกัน สำหรับเราโอเคนะคะแต่คนอื่นเราไม่รู้อาจจะอ่านแล้วคิดเห็นแตกต่างกันแล้วมาคุยกันนะคะ ^^

02 พฤษภาคม, 2555

คริสมาสต์ฝันรัก A Christmas Bride – by…..Mary Balogh



- คริสมาสต์ฝันรัก A Christmas Bride – by…..Mary Balogh 
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว  historical romance
- ผู้แปล มันฑุกา
- จำนวนหน้า 277 หน้า




คริสมาสต์ฝันรัก A Christmas Bride – by…..Mary Balogh

เล่มที่ห้า เล่มสุดท้ายในชุด ดาร์คแองเจิ้ล ของ แมรี่บาล็อค ((เล่มแรก แผนรักเทพบุตร เล่มสอง เจ้าสาวของท่านลอร์ด เล่มสาม วีรสตรีจอมเปิ่น เล่มสี่ เจ้าสาวปริศนา) เล่มนี้เป็นเล่มของเอ็ดการ์พี่ชายของคอร่านางเอกเล่มสาม อืมมม ต้องบอกว่าแม้จะหยิบงานของแมรี่มาอ่านแบบต่อเนื่องสำหรับเรางานของเธอก็ยังไม่ได้ทำให้เราถึงกับคลั่งไคล้มากนักแต่ต้องยอมรับว่าสำหรับชุดนี้เองเล่มที่เราชอบมากที่สุดยังคงเป็นเล่มสองและรองลงมาก็คงเป็นเล่มสุดท้ายเล่มนี้ล่ะค่ะที่อ่านแล้วเอ็ดการ์จากที่เขาเคยปรากฏตัวในเล่มสามเราคิดว่าคาแร็คเตอร์เขาเฉยๆมาก แต่พอมาเป็นเล่มของเขาเอง อืมมม เอ็ดการ์ คือผู้ชายที่คาดไม่ถึงเชียวแหละ

สำหรับเอ็ดการ์ ดาวน์ ในวัยสามสิบหกปีถึงเวลาแล้วที่เขาอาจจะต้องแต่งงานสักทีแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงชนชั้นกลางและเป็นลูกพ่อค้าคนหนึ่งแต่แน่นอนว่าเขาก็สุภาพบุรุษที่ร่ำรวยที่สำคัญเขายังโสดและเพียบพร้อมสมบูรณ์และการที่เอ็ดการ์มองหาว่าที่ภรรยาในอนาคตเจ้าสาวของเขานั้นไม่จำเป็นต้องรวยมีเงินทองมากมาย แค่เป็นใครสักคนที่มีชาติกำเนิดและเป็นสุภาพสตรีเพียงพอและจะไม่ดูถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิดว่าที่ภรรยาของเขาจะต้องงดงามมีกิริยามารยาทที่เหมาะสมและหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะรักใคร่ชอบพอหล่อนได้ เขาจำเป็นต้องฉลองงานหมั้นที่คฤหาสน์โมบลีย์ในวันคริสมาสต์ดั่งที่ได้ให้สัญญาไว้กับพ่อที่ว่าควรจะแต่งงานเสียทีและนั่นเอ็ดการ์จึงต้องเข้าลอนดอนเพื่อร่วมงานสังคมต่างๆที่กำลังจะมีขึ้นและเขามีเวลาก่อนที่จะถึงวันคริสมาสต์เพียงแค่สามเดือน

เฮเลน่า สเตเปิลตัน(อ่านยากเหมือนกันวุ้ย ^^)กับการเป็นแม่หม้ายมากว่าสิบปีแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วหล่อนจะได้รับการยอมรับนับถือแต่บางครั้งเฮเลน่าในวัยสามสิบหกปีก็ทำหลายอย่างที่สุภาพสตรีในวัยอย่างหล่อนไม่ควรกระทำสุภาพสตรีในวัยสามสิบหกไม่ควรแต่งกายในตามอำเภอใจหรือกิริยาทะนงตนที่อาจทำให้ใครๆเรียกว่าหยาบช้าหรือไม่สมวัยเมื่อคิดถึงและเฮเลน่ารู้ดีและไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเวลากว่าสิบเอ็ดปีที่หล่อนคิดว่าตัวเองกำลังติดค้างกับบางสิ่งบางอย่างในอดีตและเฮเลน่าคิดว่าสิบเอ็ดปีนั้นหล่อนได้ชดใช้มันอย่างสาสมแล้วหล่อนควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และการลงโทษตัวเองมันควรจะจบลงได้แล้ว

หลังจากที่หล่อนปรากฏตัวที่งานสังสรรค์งานหนึ่งและการได้พบกับสุภาพบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่งความปราถนาอันเข้มข้นที่เฮเลน่าลืมไปแล้วว่าเคยมีได้กลับคืนมาอีกครั้งแต่ไม่ห่อนจะไม่ถามเขาตรงๆหรอก หล่อนเป็นคนที่ถนัดเรื่องกลอุบายเพื่อให้เรื่องราวเป็นไปตามที่หล่อนต้องการและการบริหารเสน่ห์สำหรับหล่อนแล้วเป็นเรื่องชวนให้เบิกบานใจแม้ว่าหลังจากการเสียชีวิตของสามีหล่อนก็ไม่เคยแสวงหาสีสันในชีวิตแม่ม่ายด้วยการมีสัมพันธ์กับชายอื่นแม้แต่คนเดียวแต่กับมิสเตอร์ดาวน์แล้วมันต่างออกไปแต่ในขณะที่เฮเลน่าคิดว่าหล่อนจะแค่เพียงยั่วยวนเขาเพียงเท่านั้นแต่สิ่งที่คิดไว้กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันแม้หลังจากนั้นหล่อนบอกตัวเองว่าหล่อนจะเกลียดเขาแต่จะโทษใครได้เมื่อหล่อนเองที่เป็นฝ่ายเชื้อเชิญยั่วยวนและจูงเขาขึ้นเตียงโดยที่ทั้งสองคนแทบจะไม่รู้จักกันเลยทั้งสองคนคือคนแปลกหน้าต่อกันและสิงที่หล่อนทำได้นับแต่นี้คือหล่อนจะเกลียดเขาแต่..มันจะยุติธรรมหรือที่หล่อนจะเกลียดเขาและขอให้เพบเจอเจ้าสาวในอนาคตที่เขาต้องการ

และสำหรับเอ็ดการ์เองหลังจากที่เฮเลน่าทำท่าทางเหมือนหล่อนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นแม้สำหรับเขาเองจะบอกว่าเขาไม่ต้องการหล่อน ไม่ต้องการเมียเก็บอายุสามสิบหก เขาต้องการว่าที่ภรรยาที่อายุน้อยกว่าแม้สุภาพสตรีเหล่านั้นจะเกรงกลัวเขาทุกครั้งเวลาเจอหน้าก็ตามสำหรับเอ็ดการ์แม้เขาจะบอกว่าเขาไม่ต้องการหล่อนแค่ไหนแต่ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือเฮเลน่า แม้ว่าการพบหน้ากันของทั้งสองคนจะเป็นเหมือนการชวนเทลาะทุกที และ หลังจากคืนที่ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน เฮเลน่าก็เริ่มแน่ใจว่าตอนนี้(สปอยล์)หล่อนกำลังตั้งท้องลูกของเอ็ดการ์ แต่หล่อนจะไม่บอกเขาว่าหล่อนกำลังท้องลูกของเขาแต่มันเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อเอ็ดการ์เองก็เริ่มสงสัยว่าอาการที่เฮเลน่าเป็นอยู่นั้นนั่นคืออาการของคนท้องและในท้องก็คือลูกของเขา แม้เฮเลน่าเองจะไม่ยอมรับก็ตาม

หลังจากนั้นเอ็ดการ์เองก็พยายามขอให้เฮเลน่าแต่งงานกับเขาแต่แน่นอนที่เฮเลน่าต้องไม่ยอมและพร้อมกับำพูดเจ็บแสบอีกมากมายแต่เอ็ดการ์รู้ว่าสิ่งที่เฮเลน่าแสดงออกกับสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากของความอวดดีของเฮเลน่านั้นมันต้องเป็นสิ่งที่ทำให้หล่อนต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอนและเขาจะหาคำตอบให้ได้ว่าอะไรที่หล่อนพยายามซ่อนไว้จนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้หลังจากนั้นเฮเลน่าก็เล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งเดียวที่หล่อนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้แต่คนที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงไปก็คือเอ็ดการ์นี่แหละเล่มนี้จะบอกว่าแม้ทั้งสองคนจะอายุเท่ากันแต่เรากลับชอบแหะเล่มนี้เหมือนเล่มรวมมิตรบรดาแต่ละคู่ แต่ละครอบครัวของเล่มที่ผ่านๆมาเลยค่ะ บรรดาเด็กๆรวมกันแล้วในเล่มนี้สิบสี่คน แม่เจ้ามันเยอะมากและเราคิดว่าเป็นเล่มปิดท้ายได้ลงตัวมากๆเลยค่ะ
ในเล่มนี้เราชอบประโยคหนึ่งที่ทั้งเอ็ดการ์และเฮเลน่าคุยกันระหว่างเต้นวอลทซ์ เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน และเราก็ไม่ใช่เพื่อนกันด้วย หรือแม้แต่คู่รัก แปลว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นหรือคะ ไม่มีอะไรระหว่างเราแม้แต่น้อยนิดลยหรือ” “เราไม่ได้เป็นอะไรกันเลย เราไม่อาจเป็นอะไรกันได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...