05 ธันวาคม, 2553

+ + + Chicken Farm Baker's Project # 20 : Let's bake braid the Challah + + +























การบ้านเดือนนี้ของฟาร์มไก่มาแล้วค่ะสำหรับโฮสเดือนนี้ก็ พี่ตา ผ้าไหมไทย ค่ะ

พี่ตาอยากให้น้องๆจับขนมปังมาถักเปีย จะ 3 4 5 6 7 8 9 10 ขาก็ถักมาเลย

ซึ่งขนมปังอินชอบกินมากแต่แว่ๆๆ......ชอบกินแต่ขี้เกียจทำ

พอมีโจทย์พี่ตาเดือนนี้เลยกระตุ้นต่อมเราอีก คึกเป็นพิเศษค่ะบ้าพลัง(ช้าง) อิ อิ

ทำมาสองสูตรเลย ผีขนุน เอ้ยยย ผีขยันเข้าสิง สูตรแรกที่ทำเป็นสูตรของ คุณ เต่าญี่ปุ่น ค่ะ

ส่วนสูตรที่สองเป็นสูตรของป้าเดลี่ สูตร Let 's bake braid the Challah จากบล็อคพี่ปุ๊ก

สูตรนี้ก้อย(bake) แนะนำให้ลองค่ะ ซึ่งทั้งสองสูตรทำแล้วก็ถูกใจมากๆค่ะ

และทำไม่ยากอยางที่คิด แถมสนุกอีกด้วย ได้ทดลองอะไรที่ไม่เคยทำก็สนุกดีนะคะ แม้ว่าหน้าตาปังเปียของอินจะเป็นปังเปียยักษ์ อิ อิ เหมาะสมกะตัวมากกก




สูตรขนมปังจากคุณ เต่าญี่ปุ่น ค่ะ


ส่วนแรก


- แป้งขนมปัง 125 กรัม

- ยีสต์ ½ ช้อนชา

-น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

- ไข่ (ทั้งฟอง ตีให้แตกเข้ากัน)........1 ฟอง

- น้ำอุ่น 100 – 110 cc


ส่วนที่สอง

-แป้งขนมปัง 125 กรัม

-เกลือ ป่น ½ ช้อนชา

-เนยจืด 40 กรัม


1). นำส่วนผสมแป้ง A (ที่เป็นของแห้ง) ใส่ลงภาชนะใบใหญ่ ควรเทยีสต์ให้อยู่ใกล้กับน้ำตาล ใช้ไม้พาย โกยแป้งขึ้นมาให้เหลือที่ว่าง เทไข่ใส่ลงไป ((อย่าให้โดนยีสต์ เพราะจะทำให้ยีสต์จับตัวเป็นก้อน ละลายผสมยาก)) เทราดน้ำอุ่นราดลงไปบนยีสต์ ใช้ไม้พาย (แบบไม้ที่มีรูตรงกลาง) กวนแรง ๆ เร็ว ๆ (ประมาณ 1 - 2 นาที) จนยีสต์ละลายผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน

2). เทส่วนผสมแป้ง B ใส่ลงไป คราวนี้....ให้คนกวนเบา ๆ ผสมให้ทุกอย่างเข้ากัน จับตัวเป็นก้อน

3). เทแป้งในข้อ 2 ออกมานวดต่อบนโต๊ะ นวดจนเนียน ขึงเป็นฟิล์มบางๆได้

4) นำก้อนแป้งที่นวดจนเนียนแล้ว ใส่ในภาชนะใบใหญ่ (ไม่ต้องทาน้ำมันหรือเนย) คลุมปิดด้วยแผ่นพลาสติคใสหรือผ้าที่ชุบน้ำบิดหมาด ๆ ทิ้งไว้ให้โดว์ขึ้นประมาณ 2 เท่า

5) . หลังจากพักแป้งได้เวลาแล้ว เช็คโดยการเอานิ้วเราไปคลุกกับแป้งสาลี แล้วนำมาจิ้มก้อนแป้งดู ถ้ารอยบุ๋มไม่คืนตัว ก็แสดงว่าแป้งขึ้นโดว์ได้ที่

6). ใช้กำปั้นกด (ชก) ลงไปเพื่อไล่แก๊ส ทำทั้งหมด 3 แห่ง ไม่ต้อง นวดไล่ลม

พอพักแป้งได้ที่แล้วก็นำแป้งมาคลึงให้ได้ขนาดตามต้องการ แล้วก็เริ่มถักเปียได้เลยค่ะ







การขึ้นรูปขนมปัง อินดูจากหนังสือ ชื่อ THE BREAD BOOK นะคะ









เสร็จแล้วก็ได้แบบนี้





พักไว้ประมาณ 20 - 25 นาที ก่อนเข้าอบก็ตาด้วยไข่ ผสมนม โรยด้วย งาขี้ม่อนค่ะ















ต่อด้วยสูตรที่สอง ของพี่ปุ๊กค่ะ(ขอเอาสูตรจากพี่ปุ๊กมาวางตรงนี้เลยนะคะ)

3-3¼ cups (15-16¼ ounces) .......... แป้งอเนกประสงค์
................................................................ เตรียมไว้สำหรับ โรยโต๊ะ ด้วยนะคะ
¼ cup (1¾ ounces) ............................ น้ำตาล
2 ¼ teaspoons ..................................... instant yeast
1 ¼ teaspoons ..................................... เกลือ
2 ............................................................. ไข่
1 ............................................................. ไข่แดง
4 tablespoons (½ stick) .................... เนยจืด, ละลาย
½ cup plus 1 tablespoon ................... น้ำอุ่น (ประมาณ 110 degrees F)
................................................................ ไข่ขาว (สำหรับทาขนมปัง)
1teaspoon ............................................. poppy seed หรืองา sesame seeds (หรือ จะไม่ใช้ก็ได้ค่ะ)


1. ผสม แป้ง 3 ถ้วยตวง กับน้ำตาล ยีสต์ และเกลือ ลงในชาม พักไว้ ผสม ไข่ 2ฟอง ไข่แดง เนยละลาย และน้ำ ½ถ้วย ลงในอ่างผสมของเครื่องตี เตรียมหัวตีตะข้อไว้

ใส่แป้งลงในส่วนของเปียก แล้ว ตีด้วยความเร็วต่ำ ประมาณ 5 นาที ถ้าแป้งดู แฉะมาก ให้ใส่แป้งที่เหลือลงไป ทีล่ะ 1 ช้อนโต๊ะ จนกว่า จะไม่แฉะค่ะ
ผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะกับไข่ขาว แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็น

2.นำโดออกจาก อ่างผสม แล้ว วางลงในชามทีทาน้ำมันไว้ แล้วทาด้วยน้ำมันเล็กน้อย ปิดด้วย พลาสติก แล้วพักจนขึ้นเป็น 2 เท่า ประมาณ 1½ ถึง 2 ชั่วโมง








แล้วพักไว้จนขึ้น ประมาณอีก 1 ส่วน 3 ใช้เวลา ประมาณ 30
ถึง 45 นาที



ก่อนเข้าอบทาด้วยไข่ผสมนม แล้วโรยด้วยงา








อันนี้งาขี้ม่อน








และอันนี้เปียงาขาว





เมื่อเช้าทำแซนวิชซะเลย อิ่มสบายพุง ค่ะ อิ อิ แล้วปังเปียส่วนที่เหลือก็เอาไว้ทำ french toast กะ หนมปังกระเทียม


















Chicken Farm Baker's Project #19: Verrines,Trendy&Luxury in a Glass,


















<>Chicken Farm Baker's Project #19 Verrines,Trendy&Luxury in a Glass,Mango white Chocolate yogurt Mousse






การบ้านฟาร์มประจำเดือนมาแล้วค่ะ โฮสเจ้าของฟาร์มเดือนนี้คือ (ก้อย - เบค) ค่ะ

โดยโจทย์คือจับขนมมาใส่แก้ว แล้วในแก้วต้องมีสามสิ่งขึ้นไป
ในหนึ่งสิ่งนั้นต้องมีการใช้เตาอบด้วย

(ไอ้กล้วยเริ่มจะเยอะสิ่งเหมือนใครน๊าาา อิ อิ อุ อุ )



ตอนแรกได้โจทย์ก็กรี๊ดดดเลยค่ะ
เพราะชอบมากกกก ก็ขนมอยู่ในแก้วแล้วมันน่ารักจริงๆค่ะ ชอบๆๆๆ อิ อิ


แล้วที่อินเลือกทำวันนี้ก็คือ มูสเค้กมะม่วง ค่ะ เพราะมูสมะม่วงยังไม่เคยได้ลองทำเลย และเพิมไวท์ช็อคโกแลต และ โยเกิร์ต เข้ามาด้วย แบบนี้ก็ทำให้รสชาติน่าสนใจขึ้นมาด้วยค่ะ ขอบอกว่าการทำโจทย์ครั้งนี้สนุกมากค่ะ เวลาทำก็มีความสุขเนอะ ว่าแล้วเราก็ไปลงมือกันเลยค่ะ ^^!


ส่วนที่ 1 สปันจ์เค้ก(อินใช้สูตรที่อยู่ในหนังสือ Bake With Heart ของน้องแก้มนะคะ)

- ไข่ไก่ 2 ฟอง

- น้ำตาลทราย 55 กรัม

- แป้งเค้ก 50 กรัม

- แป้งข้าวโพด 5 กรัม

- เกลือ 1/8 tsp

- ผงฟู 1/2 tsp

- วนิลลา 1/2 tsp

- นม 10 ml

- เนยสด 10 กรัม

- น้ำมันพืช 20 ml


- วอร์มเตาที่ 180 ํC ร่อนแป้ง ทั้งสองอย่างรวมกับ ผงฟู และ เกลือ สองรอบ พักไว้

- ไข่ใส่หม้อขนาดย่อม ตั้งไฟอ่อนๆ ใช้ตระกร้อมือคนตลอดเวลา แตะๆดูไข่จะอุ่นๆ แล้วเทใส่โถตี แล้วตีไข่กับน้ำตาลด้วยความเร็วสูงสุด จนข้น ฟูขาว แล้วตีต่ออีก 1 นาที

- ใส่วนิลลา และ แป้งที่ร่อนไว้ ผสมให้เข้ากันด้วยตระกร้อมือ

- นำเนยสดกับนมใส่ถ้วย เข้าไมโครเวฟให้ละลาย แล้วใส่น้ำมันพืชลงไป แล้วเทส่วนผสม 1/3 ส่วนลงในส่วนของแบทเทอร์ ผสมให้เข้ากันดีแล้วใส่ส่วนที่เหลือลงไปผสมให้เข้ากันอีกรอบ

- เทใส่ถาดแล้วนำเข้าอบ 7-10 นาที



- ไข่ใส่หม้อขนาดย่อม ตั้งไฟอ่อนๆ ใช้ตระกร้อมือคนตลอดเวลา แตะๆดูไข่จะอุ่นๆ แล้วเทใส่โถตี


แล้วตีไข่กับน้ำตาลด้วยความเร็วสูงสุด จนข้น ฟูขาว แล้วตีต่ออีก 1 นาที





- เทใส่ถาดแล้วนำเข้าอบ 7-10 นาที









ส่วนที่ 2 มูสมะม่วง ( มาจากหนังสือ สุดยอดเบเกอร์รี่ ของ รองศาสตราจารย์ จริยา เดชกุญชร ค่ะ) และอินปรับสูตรนิดหน่อยค่ะ



- เนื้อมะม่วง ปั่นละเอียด 1 ลูก

- ไวท์ช็อคโกแลต 150 กรัม

- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยโยเกิร์ต

- เจลาติน 1 tsp

- วิปปิ้งครีม 1 cup

- เหล้ารัม



- ละลายเจลาตินเตรียมไว้

- ปั่นเนื้อมะม่วงให้ละเอียด แล้วนำไปตั้งไฟให้เดือด ยกลง

- ให้ไวท์ช็อคฯลงไปคนให้ละลาย ตามด้วยเจลาติน และเหล้ารัม พักส่วนนี้ไว้

- ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟูแล้วนำส่วนของมะม่วงที่พักไว้มาผสมกับวิปครีมให้เข้ากันดี






- ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟูแล้วนำส่วนของมะม่วงที่พักไว้มาผสมกับวิปครีมให้เข้ากันดี










ส่วนที่ 3 Mango Sauce(จากหนังสือ A Piece of Cake By LEILA LINDHOLM)




- มะม่วง 1 ลูก

- น้ำตาล 90 กรัม

- น้ำ 150 กรัม

- เหล้ารัม 1 tbsp

- มะนาว 1 ลูก









- ปอกเปลือกมะม่วง แล้ว หั่นเป็นชิ้น ปั่นให้ละเอียด

- มะม่วง น้ำ น้ำตาล นำขึ้นตั้งไฟให้เดือด แล้วใสน้ำมะนาวใช้ตระกร้อมือคนใ้ห้เข้ากัน พอเดือดยกลงพักไว้ให้เย็น


* เมื่อส่วนผสมพร้อมแล้วก็จับลงแก้วได้เลยค่ะ *


วางเค้ก แล้วเทตัวมูสลงไป ตามด้วยซอสมะม่วง ทำสลับชั้นไปเรื่อยๆค่ะ







เสร็จแล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นจนเซ็ทตัว


แล้วนำมาตกแต่งด้วยมะม่วงหั่นเป็นชิ้น แล้วก็พร้อมเสริฟได้แล้วค่ะ





เสริฟตอนเย็นๆชื่นใจนักจริงๆค่ะ










ดูกันให้เบื่อไปเลยค่ะ อิ อิ แสบตาดีมั้ยคะ






ลาด้วยภาพนี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาค่ะ
















ลิงค์ของเพื่อนๆในฟาร์ม ตามไปชมกันได้เลยค่ะ



=" "= Chicken Farm Bakers' Project # 18: Opera Cake, with a twist! Coffee Opera ha ha ha =" "=






















การบ้านฟาร์มไก่เดือนนี้มาแล้วค่ะโฮสของเราเดือนนี้ก็คือพี่ ปุ๊ก เดลี่ อร่อยทุกวัน(จอมโหด) นั่นเองค่ะ อิ อิ

คุณพี่แกบอกว่าชาวฟาร์มได้โจทย์สบายๆกันมาหลายเดือนแล้ว เดือนนี้

เลยอยากให้ทำอะไรที่(เยอะสิ่ง) บ้าง กร๊ากกกกก อย่างกับรู้ว่า

เดี๊ยนแสนจะขี้เกียจ ฮิ้ววววว โจทย์ครั้งนี้คือ โอเปร่า ลั้ลลา ค่ะ


สำหรับสูตรโอเปร่าเค้กวันนี้อินเอามาจากหนังสือ DELICIOUS CAKES ของ คุณ วราภา สัตยบุตร นะคะ

แต่มาปรับสูตรนิดหน่อยค่ะ ผลที่ออกมาก็ยังไม่ค่อย

พอใจเท่าไหร่ ตัว Biscuit แห้งไปนิดนี่ขนาดว่าพรมเหล้าจนชุ่มแล้วค่ะ

และส่วนของกานาชสำหรับอินแล้วขมไปค่ะ แต่พี่สาวอินเค้าชอบขมๆ

และ พี่สาวอินก็บอกว่ากลิ่นเหล้าเยอะไป(ก็เราชอบนี่นา) อิ อิ ขี้มาววววอ่ะค่ะ กร๊ากกกก

เดี๊ยวคราวหน้าต้องลองสูตรที่พี่น้องฟาร์มไก่ลงไว้ซะแล้ว

น่าจะเวิร์คและถูกใจอินสุดๆไปเลยค่ะมีหลายสูตรให้เลือกด้วยนะคะคนไหนสนใจลองไปทำกันดูได้ค่ะ

และเราก็ไปดูสูตรกันเลยค่ะ

ส่วนของ Joconde Biscuit

- อัลมอนต์มีล 50 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
- แป้งเค้ก 60 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เนยละลาย 30 กรัม


ส่วนของเมอร์แรงค์

- ไข่ขาว 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 10 กรัม
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา

- เปิดเตาที่ 200 องศา C เตรียมถาดปูกระดาษไข อินใช้ถาด 12x12" ค่ะ

- ร่อนแป้ง น้ำตาลไอซิ่ง เข้าด้วยกัน แล้วผสมอัลมอนต์มีลลงไปผสมให้เข้ากัน

- เติมไข่ไก่ลงไปทีละฟองแล้วตีให้เข้ากันแล้วจึงใส่ฟองต่อไป

- ตีต่อไปให้เนียน แล้วค่อยใส่เนยละลายอุ่นๆ คนพอเข้ากันแล้วพักไว้

- ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำตาลให้ตั้งยอด แล้วแบ่งมาตะล่อมให้เข้ากันส่วนของเบสจนเข้ากันดี

- เทใส่ถาดแล้วนำเข้าอบประมาณ 15 นาที พอสุกแล้วพักให้เย็นแล้วค่อยนำมาสไลด์ให้แต่ละชิ้นเท่ากัน



ร่อนแป้ง น้ำตาลไอซิ่ง เข้าด้วยกัน แล้วผสมอัลมอนต์มีลลงไปผสมให้เข้ากัน



เติมไข่ไก่ลงไปทีละฟองแล้วตีให้เข้ากันแล้วจึงใส่ฟองต่อไป



- ตีต่อไปให้เนียน แล้วค่อยใส่เนยละลายอุ่นๆ คนเบาๆให้เข้ากันแล้วพักไว้


- ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ และน้ำตาลให้ตั้งยอด แล้วแบ่งมาตะล่อมให้เข้ากันส่วนของเบสจนเข้ากันดี


- เทใส่ถาดแล้วนำเข้าอบประมาณ 15 นาที



พอสุกแล้วพักให้เย็นแล้วค่อยนำมาสไลด์ให้แต่ละชิ้นเท่ากัน







ส่วนของน้ำเชื่อม

- น้ำ 50 กรัม

- น้ำตาล 50 กรัม

ต้มน้ำกับน้ำตาลให้เดือดแล้วพักไว้ให้เย็นไว้ใช้พรมเค้ก

และใช้เหล้าคาลัวเพิ่มไปด้วยพรมๆๆให้ทั่วๆเลยค่ะ



ส่วนของ chocolate ganache


- ดาร์กช็อกโกแลต 75 กรัม
- วิปปิ้งครีม 75 กรัม
- เนยจืด 20 กรัม

- นำช็อกฯไปตุ๋นกับเนยให้เข้ากัน พักไว้ให้อุ่นๆแล้วใส่วิปครีมใส่ลงไปคนให้เข้ากัน

* ส่วนของอิตาเลี่ยนเมอร์แรงค์ใช้สูตรจากพี่ปุ๊กเช่นเดิมค่ะ แ้ล้วเติมน้ำกาแฟลงไปผสมให้เข้ากันแล้วค่อยนำมาปาดบนเค้กค่ะ *


ส่วนของฐานช็อคโกแลต

ทำโดยนำดาร์กช็อกฯไปละลายแล้วนำมาปาดบนเค้กด้านนึงแล้วนำไปแช่ตู้เย็นจนเซตตัว





- นำเค้กออกจากตู้เย็นแล้วคว่ำให้ช็อคฯอยู่ด้านล่างแล้วพรมด้วยคาลััวผสมน้ำเชื่อมให้ทั่ว

- ปาดด้วยบัตเตอร์ครีมให้ทั่ววางทับด้วยเค้กอีกชิ้นนำไปแช่ตู้เย็นจนครีมเซตตัว

- พอเซตตัวดีแล้วก็น้ำเค้กออกมาปาดด้วบัตเตอร์ครีมให้ทั่วแล้วนำไปแช่เย็นให้ครีมเซตตัว




- นำออกจากตู้เย็นปาดด้วยกานาซนำไปแช่ตู้เย็นจนเซตตัวเซตตัว






- พอเซตตัวดีแล้วก็น้ำเค้กออกมาปาดด้วบัตเตอร์ครีมให้ทั่วแล้วนำไปแช่เย็นให้ครีมเซตตัว















ส่วนของ chocolate glazing

- ดาร์กช็อคโกแลต 85 กรัม
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม

ละลายช็อกกับวิปครีมแล้วคนให้เข้ากัน พักไว้ให้หายร้อนซักครู่แล้วค่อยนำมาราดบนเค้กให้ทั่วแล้วนำไปแช่เย็นจนกานาซอยู่ตัว




เมื่อกานาซอยู่ตัวก็นำออกมาตัดขอบออกให้เสมอๆกันแล้วเตรียมเสิร์ฟได้เลยค่ะ



http://i284.photobucket.com/albums/ll4/everything_Ain/DSC08184.jpg?t=1264073650













เสร็จแล้วก็ตัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ








แบบที่เขียนเป็น Opera ก็มีนะคะแต่ดูแล้วท่าจะไม่รุ่งเลยได้แค่นี้ อิ อิ




Opera แบบเปิดซิง ค่ะ อิ อิ ทนๆชมกันหน่อยนะคะ แหะ แหะ








LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...