orange macarons with oreange curd Filling

มาการองอีกแล้วค่ะ ยิ่งทำยิ่งหลงเสน่ห์เขาล่ะ รอบนี้มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆของส้มค่ะ เข้ากันสุดๆกับออเร้นท์เคิร์ดสีแสบสัน และรสชาติเปรี้ยวหน่อยๆเวลากินกับตัวมาการองมันลงตัวมากๆ เวลาได้กลิ่นหอมๆของส้มนี่มันสดชื่นดีจังเลยค่ะ

ส่วนผสม(ครึ่งสูตร)

- ไข่ขาว ..............75 g

- caster sugar................5og

- อัลมอนต์................90 g

- icing sugar.............135 g

- สีส้ม + กลิ่นส้ม  สองสามหยด

- ปั่นอัลมอนต์ + น้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วร่อนรวมกันสองครั้ง

- ตีไข่ขาว + กับ caster sugar + สีชมพู จนตั้งยอด แล้วค่อยๆแบ่งอัลมอนต์ที่ร่อนไว้ลงไป

- ค่อยโฟล์ให้เข้ากันแล้วตักใส่ถุงบีบ บีบลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไข

พักให้ผิวมาการองแห้ง อินพักไม้ถึงชั่วโมงผิวก็แห้งแล้วค่ะ

- พอพักผิวได้ที่ก็วอร์มที่ 160 ํc ไฟล่างอย่างเดียวค่ะ พออุณหภูมิได้ที่ก็นำเข้าอบ 11 - 12 นาที

ส่วนของ  orange curd Filling 

- น้ำตาลทราย........................50 g

- แป้งข้าวโพด...........................2 1/2 tsp

- เกลือป่น.............................1/8 g

- น้ำส้มซันควิก.........................1/3 cup

-น้ำมะนาว......................1 tbsp

- ไข่แดง.......................2 ฟอง

- ผสมทุกอย่างเข้าด้ววยกันในหม้อใบเล็ก ใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากัน

- นำไปตุ๋นบนหม้ออีกใบที่ตั้งน้ำเดือด คนตลอดเวลาจนส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น

Lavender Macarons

สำหรับมาการองต้องบอกว่่่่ายิ่งได้ทำ ยิ่งสนุกทุกครั้งค่ะ แต่ทำบ่อยๆไม่ดีเพราะไม่มีใครช่วยกินอ่ะ บางทีอยากทำทีละหลายๆสี หลายๆรสแต่คนช่วยกินไม่มีนี่สิ ต้องค่อยๆทำทีละน้อยเลยเก็บกดบ้างเป็นบางครั้ง อิ อิ 

ส่วนผสม(ครึ่งสูตร)

- ไข่ขาว ..............75 g

- caster sugar................5og

- อัลมอนต์................90 g

- icing sugar.............135 g

- สีม่วง สองสามหยด

- ดอกลาเวนเดอร์แห้ง

- ปั่นอัลมอนต์ + น้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วร่อนรวมกันสองครั้ง

- ตีไข่ขาว + กับ caster sugar + สีชมพู จนตั้งยอด แล้วค่อยๆแบ่งอัลมอนต์ที่ร่อนไว้ลงไป

- ค่อยโฟล์ให้เข้ากันแล้วตักใส่ถุงบีบ บีบลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไข

พักให้ผิวมาการองแห้ง อินพักไม้ถึงชั่วโมงผิวก็แห้งแล้วค่ะ

- พอพักผิวได้ที่ก็วอร์มที่ 160 ํc ไฟล่างอย่างเดียวค่ะ พออุณหภูมิได้ที่ก็นำเข้าอบ 11 - 12 นาที

บาปลวง บ่วงรัก JACKASON RULE - by…Dinah McCall

- บาปลวง บ่วงรัก JACKASON RULE - by…Dinah McCall

- แพรว สำนักพิมพ์

- ผู้แปล: อรทัย พันธพงค์

- หนังสือแนว romantic suspense

> > > Ain @ Bloggang < < <

ตั้งแต่เห็นพล็อตของเรื่องนี้ก็ทำให้อยากอ่านมากๆแล้วค่ะเพราะพล็อตแนวนี้ชอบจังเลยอ่ะ แนวเดียวกับปรารถนาแห่งหัวใจ และ คืนรักฤดูร้อนเนี่ย ใช่แล้วค่ะถ้าใครเคยได้อ่านสองเรื่องที่บอกไปเมื่อกี๊คงรู้ว่าพระเอกต้องเป็นแนวขี้คุกใช้ชีวิตอยู่ในคุกมาก่อนได้รับอิสรภาพแค่นี้ก็พอที่จะทำให้เราตามอ่านพอได้หนังสือมาอยู่ในมือก็เลยต้องรีบอ่านโดยไวเพราะรอไม่ไหวแล้วใครที่ยังไม่เคยอ่านแนวนี้อยากให้ลองนะคะ

15 ปีของ แจ๊คสัน รูล กับการที่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกด้วยข้อหาที่ร้ยแรงและให้อภัยไม่ได้เขา(สปอยล์)ทำการฆ่าพ่อของเขาเอง บัดนี้ แจ็คสัน รูล กำลังจะได้รับอิสระภาพอีกครั้งแต่ความผิดที่ทำให้แจ็คสันต้องเข้าคุกเขาบอกตัวเองว่าแม้ย้อนเวลากลับไปได้เขาก็จะยังทำสิ่งนั้นอยู่ดีและเขาไม่คยเสียใจที่สแตนตัย รูล ตายจากอิสรภาพที่เขาได้สัมผัสอีกครั้งแจ็คสันบอกตัวเองว่าเขาจะหาชีวิตใหม่ให้ตัวเองและชีวิตที่เหลืออยู่ชองมอลลี่พี่สาวเขากลับคืนมาและถ้าจะมีชีวิตรอดต่อไปเขาเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในคุกว่าอย่ายุ่งกับใครและอย่าไว้ใจใคร!!และถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนฝันร้ายและปืศาจในอดีตก็ยังคอยตามหลอกหลอนเขาเหมือนเดิมเสมอ

สิ่งท้าทายสำหรับแจ็คสันลำดับต่อมาคือเขาต้องหางานทำแต่แจ๊คสันรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่ายที่จะได้งานทำแต่คนขี้คุกก็คือคนขี้คุกไม่มีใครให้โอกาสเขาเลยเมื่อได้รู้ว่าเขาเคยติดคุกมาก่อนแต่รีเบคก้าผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยช่วยเหลือโดยบังเอิญกลับพร้อมจะให้โอกาสเขาและให้งานเขาทำโดยที่เธอไม่สนใจว่าเขาเคยติดคุกมาก่อนหลังจากทำงานไปได้ไม่นานสิ่งที่ทำให้แจ๊คสันป็นกังวลที่สุดคือความรู้สึกของเขาเองความรู้รู้สึกเขาที่แทบคิดเรื่องอื่นไม่ได้นอกจากรีเบคก้าและเขารู้ว่ารื่องระหว่างขากับเธอนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยและเขาจำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ยอมให้ใครรู้

รีเบคก้าเองรู้ว่าแจ๊คสันพยายามสร้างกำแพงขึ้นมาระหว่างพวกเขาอีกแล้วเขาจะพูดก็ต่อเมื่อถูกถามเขาระวังตัวเสมอเมื่ออยู่กับเธอแต่ภายใต้หน้ากากอันสงบเยือกเย็นนั้นเธอรู้ว่าแจ๊คสันผุ้ใจดีและอ่อนโยนซ่อนอยู่หลังจากออกจากคุกระยะเวลา 15 ปีของการต้องแยกจากมอลลี่เพื่อรับโทษแจ๊คสันพยายามไปพบมอลลี่พี่สาวเขาแต่ติดอยู่ที่เขาหน้าเหมือนคนที่ทำร้ายเธออย่างกับคนๆเดียวกันแจ๊คสันรู้ว่าถ้าเธอได้เห็นหน้าเขาอีกครั้งจะทำให้มอลลี่หวาดกลัวต้องยอมรับว่าเอาใจช่วยแจ๊คสันเหมือนกันกับการที่จะได้พบกับมอลลี่เพราะเหมือนเราก็รอไปพร้อมๆกับเขาเลยว่าเมื่อไหร่พี่น้องจะได้เจอกันซะทีเรื่องนี้อ่านไปส่วนตัวแล้วดราม่าพอดูสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตกับพระเอกและมอลลี่นั้นหนักพอดูและไคล์แม็คของเรื่องจะอยู่ที่มอลลี่เริ่มจำได้ว่าตัวเองคือใครและแจ๊คสันคือใครตอนนี้เราบ่อน้ำตาแตกไปเลย

ยิ่งตอนที่มอลลี่ยอมรับและขอล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด(สอปอยล์)เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเธอเป็นคนฆ่าพ่อของเธอเองและแจ็คสันคือคนที่รับผิดแทนมอลลี่หลังจากนั้น พออ่านแล้วนั่งคิดต่อไปว่าถ้าเราเป็นเด็กสองคนนี้เราจะทำยังดีเราจะกล้าพอเหมือนพวกเขาไหมรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตทำให้เข้าใจพระเอกมากขึ้นว่าทำไมเขาไม่กล้ารักใคร และ ไม่กล้าให้ใครมารักเขา เพราะเขากลัวสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเขากลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนพ่อที่เคยทำเรื่องไม่ดี แต่ชอบคำพูดของนางเอกตอนบอกกับพระเอกค่ะ”ฉันได้แต่หวังว่าคุณจะรู้จักรักตัวเองมากเท่าที่ฉันรัก”

แต่ถึงแม้เล่มนี้พออ่านจบแล้วเราโอเคนะคะแม้จะเสียดายว่าบางประเด็นน่าจะเขียนต่ออีกหน่อย(คงจะดี) เพราะเหมือนอ่านๆไปแล้วเราก็อยากรู้และอยากได้อารมณ์ต่อเนื่องแต่พอคุยจบก็จบไปเลยเหมือนประมาณเสียดายไดอะร็อคนั้นค่ะ(นางเอกบอกให้พระเอกทำเซอร์ไพร์เรื่องเลือกซื้อเครื่องดื่ม)แต่โดยรวมแล้วชอบเพียงแต่เสียดายนิดหน่อยเท่านั้นแต่ส่วนตัวแล้วสำหรับเรื่องนี้ถ้าต้องให้คะแนนเราให้ 8.5 นะ ขอหักตรงส่วนที่บอกไว้เมื่อกี๊ออก อิ อิ แต่โดยรวมแล้วสนุกมากค่ะเป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาด และก็ไม่น่ามองข้ามเล่มนี้ไปด้วยประการทั้งปวง

Apple Vanilla Jam

ช่วงก่อนมีแอปเปิ้ลค้างตู้เย็นมาซักพักใหญ่ๆเลยคิดหาทางกำจัดแอปเปิ้ลที่ใกล้หมดอายุไขกันดีกว่าค่ะ

เลยทดลองทำเจ้าแยมแอปเปิ้ลนี่ดีกว่าเพิ่งเคยลองทำครั้งแรกค่ะผลปรากฏว่าทำออกมา แล้วถูกใจมากกกกๆๆอันนี้เป็นรอบแรกที่ทำ มีแอปเปิ้ลอยู่ประมาณ 10 ลูกค่ะ ทำออกมาแลวได้สองขวดขวดใหญ่ 1 ขวด ขวดเล็ก อีก 1 ขวด แต่ขวดเล็กไม่เต็มนะคะ และปรากฏว่าหมดไวมากๆกินเล่นเฉยๆก็อร่อยดี555+

และวันก่อนก็ทำไปอีกรอบใช้เเอปเปิ้ลไปสองถุงเลยค่ะคราวนี้ส่วนตัวชอบให้ยัง แอปเปิ้ลยังเป็นชิ้นอยู่บ้างไม่ให้เขาเละเป็นเนื้อเดียวกันไปทั้งหมดน่ะค่ะ เวลาเคี้ยวเจอเนื้อแอปเปิ้ลแล้วอร่อยมากแยมแอปเปิ้ลรอบนี้อยากได้กลิ่นวนิล ลาแบบสะใจมากๆใส่วนิลลาไปสองฝักเลยค่ะหอมทั้งวนิลลาและแอปเปิ้ลพร้อมกันในคำ เดียวนี้มันสวรรค์ชัดๆรสเปรี้ยวนิดๆของแอปเปิ้ลมันเข้ากันดีกับวนิลลามากๆ ตอนทำไม่ได้ชั่ง ตวง วัด ส่วนผสมให้แน่นอนนะคะ แค่กะๆเอาด้วยสายตาและการชิมตามใจเราแค่นั้นเอง

ส่วนผสมแยมแอปเปิ้ลวนิลลา
- แอปเปิ้ลเขียว.......................10 ลูก
- น้ำตาลทราย................................1 1/2 cup(โดยประมาณ)
- วนิลลา...........................2 ฝัก
- น้ำมะนาว......................1 ลูก

- แอปเปิ้ลปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นล็ก เอาเม็ดออกให้หมด

- ใส่น้ำตาลลงไปก่อน 1 ถ้วย น้ำมะนาว ตามด้วยวนิลลาบีน 2 ฝักขูดเอาแต่เม็ด ฝักอย่าทิ้งนะคะเก็บใส่โหลน้ำตาลเป็นน้ำตาลกลิ่นวนิลลาหอมมากๆค่ะ

- เสร็จแล้วนำขึ้นตั้งไฟ ไม่ต้องเติมน้ำนะคะ เดี๋ยวน้ำแอปเปิ้ลจะออกมาเยอะเชียวล่ะ

- ตั้งไฟให้ดือดแล้วลดไฟลงเป็นไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆแล้วลองชิมดูว่าหวานพอ หรือยัง หลังจากนี้เราเติมน้ำตาลอีก 1/2 ถ้วยนะคะ เวลากินกับขนมปัง หรือ สโคน จะพอดีเลย(ปรับลดน้ำตาลได้ตามใจเลยค่ะ)

- คอยคนเป็นระยะนะคะระวังก้นหม้อไหม้ พอเคี่ยวไปซักพักน้ำจะเริ่มงวดลงแล้วถ้าชอบให้เนื้อแอปเปิ้ลละเอียดๆก็กวน นานหน่อย แต่ถ้าเหลือชิ้นแอปเปิ้ลไว้เคี้ยวแบบเราก็กะๆเอาค่ะอย่าให้เนื้อแยมเละมาก

- พอเนื้อแยมได้ที่แล้วก็ตักใส่ขวดแยมที่ทำการพาสเจอร์ไรท์แล้วนะคะโดยการนำ ขวดโหไปลวกในน้ำร้อนจัดๆ แล้วคว่ำบนตะแกรงให้แห้งสนิท เสร็จแล้วตักแยมที่ยังร้อนๆอยู่ลงไปในขวดปิดฝาแล้วคว่ำขวดลงค่ะ ปล่อยไว้จนกระทั่งแยมเย็นตัวลงหลังจากนั้นค่อยเก็บใในตู้เย็นค่ะ

สามเล่มของ julie Garwood

เชลยบาป  Ransom

เชลยบาปเป็นเล่มที่ที่สองในชุด ไฮแลนด์ค่ะ เล่มแรกคือ (ปริศนารัก)เราเคยรีวิวไว้แล้วสำหรับปริษนารักชอบมากกกกกรี๊ดมากกกก แต่เล่มนี้ก็ไม่ผิดหวังนะ ยังน่ารักอยู่โบรดิคจะน่ารักไปไหน ผู้ชายสก็อตตัวโตๆนักรบที่ไม่กลัวสิ่งใดนี่จะต้องสยบให้กับผู้หญิงแบบนางเอกทุกคนเลยใช่มั้ย(ก็แน่ล่ะสิยะ ก็นางเอกนี่นา)55555+ แต่อย่างว่าไงพระเอกสก็อตแบบนี้นี่ขอซักคนได้ไหมอ่ะ อ่านแล้วกรี๊ดกร๊าดมาก(สำหรับเรานะ)

สำหรับเชลยบาปกว่าที่โบรดิค(พระเอกของเรื่อง)จะโผล่มามีบทบาทก็ปาไปบทที่สาม(หรือสี่หว่า)แล้วโน่น แต่รับรองว่าพอปรากฏตัวแล้ว เฮ้ยยยยย น่ารักอ่ะ 55555+ และก็เป็นประจำ(เกือบจะทุกเรื่องของจูลี่ย์)ที่นางเอกต้องเป็นชาวอังกฤษ และ เล่มนี้ก็เช่นกันที่จิลเลี่ยนเป็นชาวอังกฤษที่(บังเอิญ)ได้ช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งจากการถูกฆ่าจากบารอนชาวองกฤษผู้โหดเหี้ยม

และทุกคนก็เข้าใจว่าเด็กชายคนนั้นี้ได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจิลเลี่ยนได้ช่วยชีวิตเขาไว้ และจะต้องพาเด็กชายไปส่งคืนต่อผู้คุ้มมครองเด็กชาย และเพื่อความปลอดภัยของเด็กชายจิลลี่ยนก็คิดหาวิธีเพื่อส่งสัญญาณให้เจอเขาเร็วที่สุดนั่นก็คือเธออ้างว่าเป็นเจ้าสาวของเขา แต่หลังจากการแอบอ้างแล้วนางเอกคิดจะชิ่งแหล่ะ แต่มีเหรอจะรอดพ้นเงื้อมือพี่โบรดิค โบรดิคก็จับแต่งงานซะเลยในแบบที่นางเอกไม่รู้ตัวอีกต่างหาก แถมขี้หึงสุดๆใครเข้าใกล้หน่อยมองตาขวางเลยเหอๆ

สำหรับเราชอบนางเอกของ จูลีย์ การ์วูดนะคะเราว่านางเอกไม่โง่และน่ารำคาญ แต่มีแอบฉลาดบ้าง แม้ใครหลายคนบอกว่าวลาอ่านงานของเธออาจมีเลี่ยนๆบ้างเพราะบทจะสวีทหวานก็นะพอสมควร555+ แต่สำหรับเราชอบอ่ะยังรับได้อีกภูมิต้านทานยังเหลือเฟือค่ะ แถมเล่มนี้เอียนจากปริศนารักก็มีบทกับเขาด้วย

เชลยรัก Honor’s Splendour

แล้วก็มาถึงเล่มที่ชอบมากที่สุดในสามเล่มวันนี้ค่ะตอนที่คุณ โอ – พิน แนะนำว่าลองอ่านเรื่องนี้ก็รีบหยิบมาต่อคิวทันทีค่ะเพราะกำลังอินจัดกับจูลี่ย์ น่ะ อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะเพราะเราชอบมาก รู้เลยว่าจริตตัวเองถูกใจกับงาน(ย้อนยุค)ของเธอมากๆนี่ขนาดที่รู้นะว่าคาแร็คเตอร์ พระเอก – นางเอก ก็คล้ายๆกันกับทุกเรื่องที่ได้อ่านมาก่อนหน้านี้แหละ แต่ก็อดปลื้มไม่ได้เพราเธอเขียนได้น่ารักจริงๆเราอาจเป็นแม่ยกงานของจูลี่ย์ แบบออกหน้าออกตาเกินไปหน่อยนะคะแต่ทำไงได้ 55555+ก็คนมันชอบเลยขออวยบ้างนิดนึง

หลังจากดันแคน บารอนแห่งเวกซ์ตันถูกจับเป็นเชลยเพราะเขาเข้ามาในค่ายของศัตรูตามลำพังโดยม่มีอาวุธใดๆติดตัวมาเพราะเขาเชื่อว่า บารอนเลาว์ดอนจะยอมรักษาสัญญาสงบศึกชั่วคราวแต่ดันแคนคิดผิดและตอนนี้เลาว์ดอนกำลังจะให้เขาตายอย่างทรมาน แต่ดันแคนรู้ว่าทหารของขาจะไม่ปล่อยให้เขาต้องทรมานกับการเป็นเชลยนี้นานนักแต่ผู้ช่วยเหลือเขากลับป็นผู้หญิงคนหนึ่งและป็นน้งสาวของบารอนเลาว์ดอนผู้ไร้ศีลธรรมแต่นางกลับช่วยเหลือศัตรูของพี่ชายและต้องการให้เขาหลบหนีจากการตกเป็นเชลยครั้งนี้

ดันแคน อยากรู้ว่านางจะทำอย่างไรเมื่อรู้ถึงแผนการของเขา และ ตอนนี้ดันแคนก็ไม่สามรถปล่อยนางไปได้ดังนั้นจึงจับตัวไปเพื่อเป็นกับักล่อให้เลาว์ดอนปรากฏตัว แต่แมเดอลีนรู้ว่าพี่ชายของนางจะไม่มีวันทำเพื่อนางแบบนั้นเพราะนางคือคนที่ไม่มีความสำคัญสำหรับพี่ชายเลย แมเดอลีนกำลังพยายามบอกกบเชลยที่นางช่วยเหลือมาให้รู้ว่าเขาคิดผิดที่จับตัวนางมาเพื่อแผนการที่ใช้นางเป็นเหยื่อล่อ ระหว่างการเดินทางก็ทำให้ดันแคนรู้ว่าขาจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ด้วยชีวิต แต่เขารู้ดีว่ายิ่งอยู่ใกล้แมเดอลีนมากขึ้นเท่าไหร่การควบคุมตัวของเขายิ่งลดน้อยลงเพราะงั้นพระเอกเลยต้องพยายามอยู่ห่าง(อย่างห่วงๆ)

อย่างที่บอกค่ะว่าเล่มนี้เตอนอ่านเราชอบมากความน่ารักของดันแคนนี่สุดๆอ่ะทั้งพระเอก นางเอกนั่นแหละ ทำให้อ่านไปยิ้มไปแต่แอบเห็นใจดันแคก้ตรงที่ต้องออกไปว่ายน้ำตอนกลางคืนท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บสุดๆนี่ละว่ายน้ำไปหลายคืนเลยเพื่อดับความร้อนในร่างกาย อิ อิ จนหลังจากแต่งงานสิจัดเต็มตลอดๆเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่อ่านจบไวมากๆค่ะ

จอมนาง Saving grace

มาถึงหนังสือเล่มที่สาม เล่มสุดท้ายของบล็อคนี้แล้วค่ะแต่ไม่ใช่เล่มสุดท้ายของจุลี่ย์ที่อ่านนะคะเล่มนี้เราว่านางเอกเด่นดีแต่คาแร็คเตอร์นางเอกของจูลี่ย์อย่างที่บอกแหละว่าคล้ายๆกันไปหมดแต่เรื่องนางเอกเคยแต่งงานมาแล้วก่อนที่จะมาแต่งงานกับพระเอกอีกครั้ง

หลังจากสามีตายโจฮันน่าบอกตัวเองว่านางจะไม่ยอมแต่งงานอีกม่ใช่ว่าเพราะรักสามีคนเก่ามากจนไม่สามารถแต่งงานกับใครได้อีกหรอกนะคะแต่เพราะสามีคนก่านี่ต่างหากที่ทำให้โจฮันน่าไม่อยากแต่งงานหรือว้ใจใครได้อีกเพราะสามีคนก่อนที่ช่างโหดร้ายและทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจนางอยู่เสมอและมื่อเขาตายไปโจฮันน่าก้รู้ว่าพระเจ้าเมตตาต่อนางแล้ว แต่ไม่นานพี่ชายของนางก็อยากให้โจฮันน่าด้แต่งงานอีกครั้งกับแลร์ชาวไฮแลนด์และทันทีที่นางได้เห็นเขาก็ทำให้นางตัวสั่นด้วยความกลัว(ว่าเขาจะเป็นเหมือนสามีคนก่อน) และ โจฮันน่าต้องบอกให้เขารู้ถึงความผิดปกติของนางและนางอยากทำให้เขาเปลี่ยนใจนั่นก็คือนางเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้

แต่เหตุผลแค่นี้พระเอกของเรารึจะเปลี่ยนใจและทั้งคู่แต่งงานกันในวันรุ่งขึ้นนั่นเองหลังจากการแต่งงานโจฮันน่ารู้ว่าดันแคนสามีของนางคนนี้จะไม่มีวันทำร้ายนางอย่างที่รอล์ฟอดีตสามีเคยทำ และนางกล้าที่จะแสดงความเป็นตัวเองออกมา นางมีอิสระที่จะทำและพูดสิ่งต่างๆที่นางต้องการ แต่การอยู่ที่นี่ของโจฮันน่ายังมีคนไม่ยอมรับในตัวเองนางแต่นั่นโจฮันน่าย่อมมีวิธีที่จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นยอมรับในตัวนางแน่นอนอยู่แล้วและโจฮันน่าก็รู้ว่านางไม่ได้เป็นหมันและตอนนี้นางกำลังท้องลูกของดันแคน

แต่ในขณะที่โจฮันน่ากำลังมีความสุขกับสามีและการแต่งงานครั้งนี้ รอล์ฟสามีผู้โหร้ายคนเก่าก็หวนกลับมาและโจฮันน่าตัดสินใจไปกับสามีเก่าของนางเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการทำสงครามในที่สุดดันแคนก็ตามมาช่วยทันนั่นแหละส่วนรรอล์ฟสามีเก่าก็ไปอยู่ในที่ที่เขาควรจะอยู่เรื่องนี้ก็โอเคเลยนะแต่พระเอกเป็นไรมากไหม ชาตินี้จะไม่ให้นางเอกทำอะไรเลยใช่มั้ยเอะอะบอกให้เมียไปนอนพักผ่อนกลัวเมียเหนื่อยไม่อยากให้ทำไรนอกจากนั่งเย็บผ้าหน้าเตาผิง555+ดีนะที่นางเอกไม่เชื่อฟังก็เข้าใจแหละว่ารักเป็นนห่วงเมียแต่จะให้นอนทั้งวันนี่เยอะไปแระนะพี่ดันแคน555555+งานของจูลี่ย์ที่ไม่ผิดหวังอีกอย่างคือเลิฟซีนฮอตพอควรค่ะฮอตแต่ไม่น่าเกลียดโดยรวมแล้วก็ชอบแนวย้อนยุคของเธอเอบจะทุกเล่มเลยนะ

ขนมโตเกียว

หลายคนคงคุ้นเคยกับเจ้าขนมโตกียวนี่มานานนะคะ เชื่อว่าหน้าโรงเรียนเกือบทุกที่จะมีเจ้าขนมโตเกียวจอดรออยู่หน้าโรงเรียนประจำเลยล่ะ อินก็เป็นอีกคนที่(สมัยก่อน)ชอออบกินม๊าวกกกก แต่สมัยก่อนรู้สึกว่ามันอันเล็กจังเลยกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม อยากกินเยอะๆแต่ไม่มีตังค์ซื้อแล้ว แบบงบจำกัดน่ะ อิ อิ

คราวนี้เลยทำกินเองซะเลย สะใจกว่ากันเยอะ เป็นการลำลึกถึงความหลังสมัยเด็กได้ดีเลยค่ะ อร่อยๆค่า

มาดูส่วนผสมกัน

- แป้งเอนก.............95g
- ผงฟู.......................1/4 ช้อนชา
- เบคกิ้งโซดา...................1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย................1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง........................1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่...................1
- นมสด....................1 ถ้วย
- เกลือ.................1/4 ช้อนชา

- ร่อนแป้ง + เกลือ + ผงู + เบคกิ้งโซดา ลงในอ่างผสม แล้วเติมน้ำตาลทรายลง คนให้เข้ากัน
- เสร็จแล้วใส่ส่วนของ ไข่ น้ำผึ้ง และ นมลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันพักไว้

เสร็จแล้วก็มาทำไส้ค็มนะคะ ก็แค่หมูสับผัดปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทรายนิดหน่อยค่ะ
ก่อนผัดก็โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เอาไปผัดให้หอมแล้วใส่หมูสับลงไปผัดให้สุก ค่อยปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย

และเตรียมไส้กรอกไว้ด้วยวันนี้อินใช้เป็นค็อกเทลหมูรมควัน อร่อยยยย

ร่อนแป้ง + เกลือ + ผงู + เบคกิ้งโซดา ลงในอ่างผสม แล้วเติมน้ำตาลทรายลง คนให้เข้ากัน

- เสร็จแล้วใส่ส่วนของ ไข่ น้ำผึ้ง และ นมลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันพักไว้แป้งจะออกหวานๆนะคะ

กินกับไส้เค็มแล้วอร่อยดี

พอผัดไส้เสร็จก็เริ่มละเลงแป้งลงบนกะทะที่ปัดด้วยน้ำมันบางๆค่ะพอแป้งเริ่มสุกจะเป็นฟองอากาศและเริ่มกรอบ 

และก็วางหมูสับปรุงรสกับไส้กรอกลงไป แล้วก็ม้วนๆได้เลย