- ลอร์ดต้องห้าม / หัวใจซ่อนเสน่หา The Forbidden Lord - by…..Sabrina Jeffries
- สำนักพิมพ์ น้ำฝน
- หนังงสือแนว historical romance
- ผู้แปล ปิยะฉัตร
- จำนวนหน้า 358 หน้า
- ราคาจากปก 95 บาท
ลอร์ดต้องห้าม The Forbidden Lord - by…..Sabrina Jeffries
- ชุด Lord -1/3 จอมใจโจรสลัด Lord of the sea
- Lord -2/3 หัวใจซ่อนเสน่หา/ลอร์ดต้องห้าม The Forbidden Lord (Love untouched)
- Lord -3/3 ท่านลอร์ดยอดสายลับ Out of passion
อย่างที่เคยบอกว่าเราอ่านงานของซาบริน่า
เจฟรีย์
ในเล่มที่ผ่านๆมาแล้วชอบมากถึงกับต้องไปตามล่าหาเล่มอื่นๆที่เคยแปลออกมากันเลยทีเดียวจริงๆพล็อตก็ไม่ได้แน่นหรือสนุกทุกเล่มหรอกค่ะส่วนหนึ่งเราเชื่อว่าสำนวนแปลก็มีส่วนมากๆเหมือนกันที่หนังสือเล่มนั้นอ่านแล้วจะสนุกมากหรือน้อย
สำหรับงานของซาบริน่า เจฟฟรีย์(วิวาห์สลับรัก/ รักนี้มิอาจกั้น / สุดแค้นแสนรัก / ระบำมายา / วิวาห์ลวง) อ่านแล้วมันถูกจริต ถูกใจเราด้วยมั้งคะ อย่างเล่มนี้ที่พล็อตไม่ได้ถึงกับดีมากแต่อ่านแล้วก็ยังอยากอ่านงานซาบริน่าอีกอยู่ดี
จริงๆแล้วเป็นหนังสือชุด3 เล่ม ที่เรากระโดดอ่านข้ามไปมาด้วยแหละ
อ่านเล่มสามไปก่อนแล้ว(อ่านจบไปนานมากกกกกๆ และลืมไปหมดแล้วเช่นกัน)ค่อยมาอ่านเล่มนี้(เล่มสอง)ความสัมพันธ์ของตัวละครก็จำไม่ได้ด้วยว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไรแต่อ่านข้ามเล่มรู้เรื่องแน่ๆค่ะไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงกันหรอก
หลังจากที่ เอมิลี่ แฟร์ไชลด์
รีบร้อนออกจากงานเลี้ยงหลังจากที่ได้พบกับเพื่อนสนิทของเธอแล้ว
แต่การที่เอมิลี่พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถม้ากับผู้ชายที่ตัวเธอเองเข้าใจว่าเขาคือญาติของเธอซึ่งบุคลิกภายนอกของเขาช่างเหมือนกับญาติของเธอเสียเหลือเกินและเขาเองก็คิดว่าเธอคือแม่ม่ายขี้เหงาคนหนึ่งที่กำลังอยากทอดสะพานให้เพราะการที่เอมิลี่พูดแก้ต่างให้เขาในงานเลี้ยงซึ่งหมายถึงการพยายามทำให้เขาประทับใจสำหรับเอมิลี่แล้วการเป็นลูกสาวของนักบวชคนหนึ่งไม่มีทางที่เธอจะออกมากับผู้ชายที่ไม่รู้จักและเขาก็ช่างดูอันตรายมากในความรู้สึกของเอมิลี่แต่แปลกจริงที่เธอไม่รู้สึกกลัวเขาสักนิด
สำหรับ จอร์แดน วิลลิสเอิร์ล
แห่งแบล็คมอร์ การที่ต้องขึ้นรถม้าออกมากับผู้หญิงที่เขาคิดว่าหล่อนกำลังทอดสะพานให้นั่นเป็นเรื่องที่พอรับได้ซึ่งปกติแล้วเขามักไม่ปฏิเสธแต่จอรืแดนกลับพบว่าเขาทำผิดพลาดอย่างมหันต์เพราะนอกจากเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงในประเภทที่เขาคิด
และที่สำคัญผู้หญิงคนนี้ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่ได้แต่งงานลูกสาวของนักบวชคนหนึ่งเท่านั้นและสาวบริสุทธิ์เป็นข้อห้ามสำหรับเขาที่ไม่แม้แต่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย
แต่การใกล้ชิดในครั้งนี้กลับแทบทำให้จอร์แดนลืมตัวและเขารู้ดีเลยทีเดียวว่ายิ่งเขาอยู่ใกล้
เอมิลี่ แฟร์ไชลด์ นานเท่าไหร่ การควบคุมตัวเองของเขาก็ยิ่งน้อยลงไปทุกทีและเขาหวังว่าหลังจากคืนนี้เขาจะไม่ต้องเจอกับเธออีกนั่นคงจะปลอดภัยที่สุดแม้ความรู้สึกผิดในอดีตยังคงตามหลอกหลอนโดยไม่เคยจางหายไปจากชีวิตของจอร์แดนเลย
หลังจากที่เอมิลี่รับรู้ว่าโซฟีเพื่อนสนิทของเธอ
หล่อนกำลังคิดจะหนีตามผู้ชายที่พ่อโซฟีกำลังสงสัยว่าอาจจะเป็นใครสักคนที่กำลังพยายามมาหลอกลวงลูกสาวเขา
จึงพยายาม(ข่มขู่ + แบล็คเมล์) ให้เอมิลี่ปลอมตัวเพื่อช่วยสืบหาตัวผู้ชายคนไหนก็ตามที่พยายามใกล้ชิดกับลูกสาวของเขาดังนั้นเอมิลี่ต้องปลอมตัวเป็นเลดี้เอ็มม่าลูกสาวของผู้ดีไม่ใช่ลูกสาวของนักบวชอีกต่อไปและทั้งหมดที่เอมิลี่ต้องทำก็คือพยายามมองหาว่าใครกันแน่คือผู้ชายคนนั้น!! แต่แน่นอนอยู่แล้วที่เอมิลี่ต้องปฏิเสธแผนการนี้
แต่การทีพ่อของโซฟีกล่าวถึงสาเหตุเรื่องการเสียชีวิตของแม่เธอในอดีตนั่นทำให้เอมิลี่ต้องยอมทำตามแผนการวางไว้
การที่จอร์แดนรับรู้ว่าภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาพยายามจะลืมหลังจากสถานการณ์เข้าใจผิดในคืนนั้นตอนนี้เธอกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าสำหรับจอร์แดนแล้วเขาจำได้ไม่เคยลืมกับเอมิลี่ลูกสาวนักบวชผู้บริสุทธิ์
แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจอร์แดนเธอกลับบอกว่าไม่เคยรุ้จักเขาและไม่ใช่ลูกสาวนักบวชแต่คือเลดี้เอ็มม่า
ลูกสาวของท่านเอิร์ลคนหนึ่ง
แต่สำหรับจอร์แดนแล้วเขารู้ดีกว่านั้นว่าผู้หญิงคนนี้คือเอมิลี่อย่างแน่นอนแม้ว่าหล่อนพยายามจะปฏิเสธแค่ไหนก็ตามและเขาต้องสืบให้รู้ความจริงให้ได้ว่าทำไมเธอถึงต้องปลอมตัวเป็นคนอื่น
ต้องบอกว่าแม้เราจะชอบอ่านงานของซาบริน่า
เจฟฟรีย์ มากแต่สำหรับพล็อตเล่มนี้แอบส่ายหน้าเบาๆให้กับเหตุผลที่พ่อของโซฟีคิดแผนขึ้นมาและบังคับให้เอมิลีปลอมตัว
เราว่ามันง่าวไปหน่อยนะ และอีกอย่างเราว่าการดำเนินเรื่องช่วงนี้น่าเบื่อและอืดไปหน่อย
แต่.....เดี๋ยวก่อน!!ยังไม่หมดแค่นั้นว่าเหตุผลในการให้นางเอกปลอมตัวง่าวแล้ว
หลังจากนี้เหตุผลของเอมิลี่ที่บุกไปหาจอร์แดนเพื่อเสนอข้อต่อรองให้เขานั้นเราว่าง่าวกว่าเสียอีกนี่สิขัดใจและเอร้ออออคิดได้เนอะเอมิลี
เล่มนี้จริงๆถ้าเล่มหนากว่านี้อาจจะอ่านแล้วบ่นมากกว่านี้ก็ได้ฮ่ะ
แต่โชคดีที่เป็นเล่มบางๆอ่านแล้วไม่ต้องคิดอะไรมากอีกอย่างฉากบนรถม้าก็พอให้เรามองข้ามไปบ้าง
กร๊ากกกกกก