02 มีนาคม, 2555

ดยุคหมาป่าเจ้าเสน่ห์ A Certain Wolfish Charm Vs แม่มดยอดรักหมาป่า Tall Dark Wolish – by…..Lydia Dare






ดยุคหมาป่าเจ้าเสน่ห์  A Certain Wolfish Charm – by…..Lydia Dare

จริงๆแล้วช่วงนี้ยังไม่อยากอ่านแนวพาราฯเท่าไหร่นะคะ ต่ที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านเพราะส่วนนึงเป็นแนวย้อนยุคแบบที่เราชอบแม้จะเป็นย้อนยุคแบผสมพาราฯก็เถอะหลังจากที่อ่านแล้ว อืมมม ชอบเลยนะได้รสชาติของย้อนยุคเต็มๆ สำหรับเราพล็อตเรื่อน่ารักนะคะ ได้ความโรมานซ์แบบย้อนยุคที่โอเคเลยทีเดียว แม้บางจุดจะอ่านแล้วแอบคิดว่า แอร๊ ก่อนหน้านี้มัวทำอะไรอยู่เพิ่งจะมารู้สึกตัวเนี๊ยะ!


หลังจากลิลลี่ รัทเลดจ์  พยายามเขียนจดหมายถึง ไซม่อน ดยุคแห่งแบล็คมอร์ ผู้ปกครองของโอลิเวอร์หลานชายเธอเองซึ่งลิลลี่พบว่าการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นและลิลลี่เองจนปัญญาไม่รู้ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร แต่จดหมายไม่ได้รับการตอบกลับจากดยุคผู้ที่เหมือนจะไม่มีเวลาตอบจดหมายแต่กลับมีเวลาใช้เวลาเหลือเฟือเพื่อหาความสุขไปทั่วเมือง นั่นทำให้ลิลลี่ขอสาปแช่งเขาที่ไม่สนใจอ่านจดหมายของเธอ ในเมื่อดยุคไม่รับรู้และไม่มาเยี่ยมเด็กในปกครองของเขาเอง ลิลลี่ก็แค่ต้องเดินทางไปหาเขาแทน!และเขาจะต้องเสียใจที่ละทิ้งหน้าที่ตัวเอง

ไซม่อนดยุคแห่งแบล็คมอร์รู้ว่ายิ่งใกล้วันพระจันทร์เต็มดวงเท่าไหร่อาการหงุดหงิดงุ่นง่านของเขาก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น และสิ่งสุดท้ายที่ไซม่อน ต้องการก็คือการที่ต้องอยู่ใกล้ๆกับลิลลี่ รัทเลดจ์ ผู้หญิงที่เขารู้ว่าเมื่อเขาได้อยู่ใกล้แล้วอาจพลั้งมือทำร้ายเธอเพราะไซม่อนจึงต้องรีบจัดการให้ลิลลี่ออกไปจากคฤหาสน์ของเขาให้เร็วที่สุดแต่......ยิ่งพยายามผลักไสเท่าไหร่สุดท้ายก็ยิ่งได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น(ขอบอกว่าส่วนตัวแล้วชอบช่วงนี้ที่สุดอ่ะ) การพยายามควบคุมตัวเองของไซม่อนที่ไม่อยากอยู่ใกล้กับลิลลี่แต่เหตุการณ์มันมักตรงกันข้ามเสมอ สุดท้ายการห้ามใจก็คือเผลอใจ อิ อิ  กลับตัวไม่ทันแล้ว เล่มนี้วิลเลี่ยมน้องชายของไซม่อนก็ทำให้เราอ่านไปแล้วยิ้มนะนึกว่าเขาจะป็นพระเอกเล่มต่อไปซะอีกแต่ไม่ใช่แหะไปเล่มสามโน่นเลย




แม่มดยอดรักหมาป่า Tall Dark Wolish – by…..Lydia Dare


เล่มที่สองของชุดนี้แล้วค่ะหลังจากที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าอ่านเล่มแรกจบไปแล้วเราชอบมากกกกจึงเป็นเหตุให้คิดว่าเล่มสองคงจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับเล่มแรกล่ะน่า แต่....พอได้หยิบเล่มสองขึ้นมาอ่านปุ๊บ แม่เจ้า!บอกว่าแอบผิดคาดแฮะเพราะเล่มสองเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสนุกเอาซะเลย  พล็อตโดยรวมน่าเบื่อมากกกกกกผิดคาดจริงๆช่างแตกต่างกับเล่มแรกซะนี่กะไร


หลังจากคืนวันพระจันทร์เต็มดวงที่ผ่านมา เบนจามิน ไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าได้ตามปกติ นั่นทำให้เขารู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายเขาแล้ว ดังนั้นเบนต้องเดินทางไปยังสก็อตแลนด์เพื่อพบกับผู้รักษาซึ่งนั่นก็คือแม่มดซึ่งเบนรู้ว่าแม่มดมีเพียงแค่ในนิทานเท่านั้นไม่มีวันที่จะมีตัวตนอยู่ในโลกนี้จริงๆ(แล้วที่แกรเป็นหมาป่าล่ะเบน 555+) ซึ่งนั่นคือเหตุผลให้เบนเดินทางเพื่อค้นหาผู้ที่จะรักษาลูกครึ่งหมาป่าอย่างเขาได้โดยที่ไม่รู้ว่าแม่มดในตำนานมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่และเบนต้องการแก้ปัญหาในครั้งนี้ด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากพี่ชายทั้งสองคนของเขา

หลังจากเวลากว่าสองสัปดาห์ที่เบนเดินทางสู่เมืองเอดินบะระในสก็อตแลนด์
และได้พบกับหญิงสาวผมสีแดงเพลิงที่เขาได้ช่วยหล่อนจากอุบัติเหตุโดยบังเอิญเบนก็ไม่สามารถสามารถถอนสายตาจากเธอได้เลยเขารู้ว่าสัญชาตญาณของสัตว์ป่าในตัวเขามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเพียงแค่ได้สัมผัสผู้หญิงคนนี้แรงดึงดูดระหว่างทั้งสองคนรุนแรงเหลือเกินแต่ความมุ่งมั่นของเขาที่เดินทางมาที่นี่เพื่อหาตัวผู้รักษาเพื่อที่จะรักษาอาการผิดปกติของเขาไม่ใช่มาติดใจผู้หญิงคนหนึ่ง!

สำหรับเอลสเพธ แคมป์เบลล์ การที่ลอร์ดเบนจามินยืนหยัดและพร้อมช่วยเหลือเธอนั้นก็ทำให้เธอร้สึกอบอุ่นในใจแล้วเพราะลูกนอกสมรสอย่างเธอไม่ใช่สิ่งที่ส่วนใหญ่ในเมืองให้การยอมรับนอกจากเพื่อนแม่มดของเธอเท่านั้น และยิ่งเอลมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเบนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเธอและเขามีสิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงหากันอย่างลึกซึ้งและเอลอยากถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนเขาตลอดไปการที่ต้องอยู่ในอ้อมแขนเขานั่นทำให้รู้สึกดีจริงๆ  แต่อย่างที่เพื่อนแม่มดของเธอบอกว่านั่นมันไม่เหมาะสม และอีกไม่นานเขาจะต้องกลับคืนสู่ชีวิตของเขาในลอนดอนที่ซึ่งเขาจากมาและเอลไม่อยากทำให้สิ่งต่างๆยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม

อย่างที่บอกว่าเล่มนี้พล็อตค่อนข้างอืดค่ะทำให้อ่านแล้วสำหรับเราน่าเบื่อในระดับนึงเลยพล็อตวนเวียนๆมากเหมือนอยู่กับที่ไม่ไปไหนเลย อ่านไปบางทีต้องวางพักก่อน(ซึ่งไม่เหมือนเล่มแรกที่อ่านจบรวดเดียว)แถมบรรดาเพื่อนๆแม่มดของนางเอกมีข้ามาให้วุ่นวายกันเป็นพรรคๆอีกต่างหาก ทั้งๆที่น่าจะสนุกแต่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ แต่ใช่ว่ามันจะไม่ไหวเอาซะเลยนะคะสำหรับเราคิดว่าโอเคแต่สนุกสู้เล่มแรกไม่ได้จริงๆทั้งๆที่พล็อตเล่มแรกก็ไม่มีอะไรมากแต่กลับได้ใจเราไปเลย แต่สำหรับเราอ่านมาสองเล่มแล้วแอบคิดในใจก็ตรงที่พระเอกกลัวนักกลัวหนาสำหรับการทำสัญลักษณ์คู่ครองที่กลัวว่าจะทำร้ายคู่ชีวิตซะเหลือเกินนี่จริงๆแล้วพออ่านไปมันไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้นเลยเหอะพออ่านจบไปแล้วเราถึงกลับบอกว่าแค่เนี่ย!! มันน่ากลัวตรงไหน(ฟร่ะ) 5555+ นางเอกแทบไม่รู้สึก