31 สิงหาคม, 2555

เจ้าสาวใจเพชร The Maiden Bride – by…..Linda Needham



- เจ้าสาวใจเพชร The Maiden Bride – by…..Linda Needham
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
-  ผู้แปล วาลุกา
- จำนวนหน้า 422 หน้า




เจ้าสาวใจเพชร The Maiden Bride by…..Linda Needham

ได้หนังสือเล่มนี้มาในราคาเบาๆความรู้สึกตอนอ่านก็เลยบางเบาไปด้วยเพราะมันแทบไม่มีอะไรน่าจดจำเลย สำหรับเราน่าเบื่อทุกอย่างทั้งพล็อต พระเอก นางเอก แม่เจ้า!!แทบจะทั้งเล่มจะบรรยายเยอะอะไรขนาดนั้นฟร่ะ อ่านแล้ว ง่วง หงุดหงิด เบื่อ!!

อย่างแค่เรื่องจะเปิดหรือปิดประตูแค่นี้พระเอก/นางเอกยืนเถียงกันตั้งแต่ข้างบนปราสาท เดินลงมาจนอยู่หน้าประตูอยู่แล้วมันยังตกลงกันไม่ได้อีกว่ามันจะเปิดหรือปิด แล้วก็ปาไปทั้งบทเลยกับอิฉากนี้ พระเอก ก็พระเอ๊ก พระเอก เป็นคนดียึดมั่นในอุดมคติตัวเอง(ก่อนที่นางเอกจะมาปรากฏตัวพระเอกคิดเอาไว้ว่าจะบวชเป็นนักบวช) พอมาเจอนางเอก ซึ่งทั้งสองคนแต่งงานกันโดยผ่านตัวแทนและไม่เคยได้เห็นหน้าทั้งสองฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกคนมีหน้าตายังไงทุกคนคิดว่าพระเอกตายไปแล้วเพราะป่วย นางเอกได้รับมรดกจากสามีเป็นปราสาทเก่าๆโทรมๆหลังหนึ่งเลยเดินทางมาเพื่อจะมาอยู่ที่นี่ พระเอกที่หลายๆคนคิดว่าตายไปแล้วแต่ยังไม่ตายรอดมาได้จากอาการป่วยเลยเก็บตัวเงียบทำตัวเป็นผีเฝ้าปราสาทคือใครเข้ามาไม่ได้พระเอกสวมบทผไล่กระเจิง พอนางเอกมาเลยคิดว่าพอไล่หน่อยก็คงไปไรเง้ แต่นางเอกไม่ไป สุดท้ายพระเอกเลยคิดว่าในเมื่อไล่ไง ขู่ไงก้ไม่กลัวเลยตัดสินใจมาขอเป็นพ่อบ้านนางเอกดีกว่า(เออเอากับมันเส่ะ)

นางเอกก็นางเอ๊ก นางเอก ช่างแสนดีมองโลกในแง่ดีไปหมดคิดว่าสวรรค์ต้องส่งคนมาช่วยเพราะช่วงนี้นางกำลังต้องการแรงงานมาช่วยซ่อมปราสาทและถ้านางคิดว่าเปิดประตูปราสาทไว้คนทั้งหลายที่นางคิดว่านางต้องการจะเดินเข้ามาเอง(โลกสวยจริงๆว่ะ) แต่หลังจากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาเคาะประตูจริงๆนะ 555 แถมยิ่งอยู่ใกล้พ่อบ้านที่ไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วคือสามีที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้วยิ่งทำให้นางเอกรู้ดีว่าตัวนางมีความสนใจต่อพ่อบ้าน และก็รู้แหละว่าเขาก็พอใจในตัวนางเช่นกัน แต่ พระเอกก็คือพระเอกที่คิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์และกำลังจะบวชแค่จูบยังแค่มุมปากแม้นางเอกจะพยายามให้ท่าในบางทีมันยังใจแข็ง(แข็งมาก)และก็คิดเยอะมาก บรรยายและโทษตัวเองอยู่นั่น เฮ้ยย ย ย ย ย ย ย เมริงจะอะไรนักหนา(วะ)คะ  ทั้งพล้อต ทั้ง ตัวละครอะไรมันจะน่าเบื่อได้ขนาดนี้ ขนาดเปิดอ่านแบบผ่านๆข้ามๆไปมั่งยังรู้สึกว่าค่อดนานกว่าจะจบ 

29 สิงหาคม, 2555

เพลิงรักมนต์วนา The Touch Of Fire – by…...Linda Howard



เพลิงรักมนต์วนา The Touch Of Fire – by…...Linda Howard 
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- จำนวนหน้า 300 หน้า
- ราคาจากปก 245 บาท



เพลิงรักมนต์วนา The Touch Of Fire – by…...Linda Howard

ตัดสินใจหยิบงานของลินดา โฮเวิร์ด ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ต้องยอมรับจริงๆรีวิวหนังสือของเธอเยอะที่สุดในบล็อคเลยมั้งเราไม่ว่าจะตอนไหนงานของลินดามักได้ผลเสมอ อย่างเล่มนี้เองเป็นแนวบุกเบิกอเมริกาที่หลังจากเราอ่าน แองเจิ้ลครีก แล้วชอบมากๆเลยหยิบเล่มนี้มาอ่านบ้างแต่ต้องบอกว่าหลังจากอ่านจบแล้วส่วนตัวเราชอบแองเจิ้ลครีกมากกว่านะ เล่มนี้บอกไม่ถูกว่าเป็นไงแต่โดยรวมเราว่ามันอืดๆอึนๆไงไม่รู้เดะ

อย่างที่บอกว่าเรื่องนยี้เป็นแนวบุกเบิกอเมริกาพาหนะหลักๆก็คือม้า พระเอกเรฟ  แมคเคย์ ถูกตามล่าจากนักล่าค่าหัวซึ่งค่าหัวของเขาสูงถึงหนึ่งหมื่นเหรียญ ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอยู่กับการหลบหนีจากคนที่ต้องการให้เขาตายเพราะเรฟไปร่วงรู้และมีเอกสารสำคัญบางอย่างในครอบครอง แต่ระหว่างการหลบหนีเรฟก็ถูกยิงโดยคนที่ต้องการชีวิตเขาเพื่อเงินรางวัล เขารู้ดีว่าต้องการหมอที่จะรักษาแผลให้เร็วที่สุดแต่นักแกะรอยที่กำลังตามหลังเขามาทำให้เขาต้องระมัดระวังตัว การพบว่าหมอที่รักษาเขาเป็นผู้หญิงนั่นทำให้เขาแปลกใจแต่การนอนรักษาตัวในที่พักของหมอทำให้เขาอาจถูกกำจัดได้ทุกเวลาและทำให้นักแกะรอยพบตัวเขาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเรฟจึงต้องนำตัวเธอไปพร้อมกับเขาด้วย อืมมม เรียกว่าขู่แกมบังคับให้ไปด้วยมากกว่านะ!!

แอนนี่ พาร์คเกอร์ คือหมอผู้หญิงที่สังคมส่วนมากไม่เคยยอมรับจนกระทั่งเธอตัดสินใจมาที่ซิลเวอร์เมซ่า ในรัฐแอริโซน่า การมีผู้ชายที่ถูกยิงแล้วมาเพื่อให้เธอรักษานั่นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่การที่เขาบังคับและขู่ให้เธอเดินทางไปพร้อมกับเขาต่างหากที่ทำให้แอนนี่กลัวแต่ใช่ว่าเธอจะมีทางเลือกเมื่อมีปืนจ่ออยู่แบบนี้แม้แอนนี่จะรู้ว่าเธอกลัวแต่ป่วยการที่จะประท้วง อ่านไปยังเหนื่อยแทนนางเอกนะขี่ม้าขึ้นเขาในสภาพอากาศหนาวๆเจ็ดชั่วโมงโดยที่ไม่ได้หยุดพักเนี่ยมันคงโคตรจะทรมานมิหนำซ้ำพอถึงกระท่อมที่พระเอกจะใช้เป็นที่พัก แอนนี่ยังโดนใช้ทำความสะอาดกระท่อม หิ้วน้ำ (เพราะพระเอกถูกยิงทำไมไม่ไหว) ส่วน เรฟ ยืนจับตามองและถือปืนขู่ แถมตอนจะนอนยังโดนเรฟสั่งให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพราะกลัวนางเอกหนีซะงั้นน่ะ และ นางเอกก็เป็นคนดี ดีมากๆดีเกินไป กร๊ากกกก  นางเอกจริงๆ แต่พอถึงเวลาคับขันที่นักแกะรอยตามรอยเจอเธอก็สามารถจัดการแบบเอาอยู่เลยนะ และหลังจากนั้น เรฟก็รู้ดีว่าไม่สามารถปล่อยแอนนี่กลับไปสู่ชีวิตปกติของเธอได้อีกต่อไปและแอนนี่ก็ไม่ยอมที่จะอยู่ห่างจากเรฟเป็นอันขาดการเดินทางเพื่อหลบหนีจากนักแกะรอยคนอื่นๆไม่ใช่เรื่องง่ายและแอนนี่เป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดและเรฟก็พบว่าพรสวรรค์ในการรักษาของแอนนี่คือสิ่งพิเศษ

พออ่านจบแอบคิดนะนี่มันย้อนยุคแบบมีกลิ่นไอของพาราฯปนมาหน่อยๆนี่นาเพราะนางเอกสามารถใช้มือในการเยียวยาคนที่เจ็บป่วยได้แม้ว่าตัวเธอเองยังยากที่จะยอมรับ


27 สิงหาคม, 2555

เทพบุตรทระนง Taming the Scotsman – by…..Kinley MacGregor


- เทพบุตรทระนง Taming the Scotsman – by…..Kinley MacGregor
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล พิชญา
- จำนวนหน้า 436 หน้า




เทพบุตรทระนง Taming the Scotsmanby…..Kinley MacGregor

หลังจากอ่านชุดนี้ผ่านไปสามเล่ม(รวมถึงเล่มนี้)เทพบุตรแดนเถื่อน / เทพบุตรบาป รู้สึกเล่มซินจะสนุกสุดจริงๆแหะ เพราะมาเล่มนี้สำหรับเราก็ไม่ได้น่าติดตามเป็นพิเศษอะไรเลย แถมอ่านๆไปบอกตรงๆเรารำคาญอีแวนพอสมควรว่าจะอะไรนักหนาวะ!

หลังจากการหนีออกจากบ้านเพื่อหนีจากการที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่นางไม่ได้รัก นอร่า จึงหนีออกมาเพื่อหาทางไปหาป้าซึ่งก็คือพระนางเอลินอรืแห่งอังกฤษแต่ปัญหาก็คือนอร่าต้องการคนนำทางเพื่อพานางไปให้ถึงอังกฤษและตัวลือกที่เหมาะสมที่สุดก็คืออีแวน แม็คอลิสเตอร์ และชื่อเสียงของแม็คอลิสเตอร์เป็นที่น่านับถือ กลัวเกรงในสก็อตแลนด์ ดังนั้นนอร่าจึงเดินทางไปพบกับเขาเพื่อยื่นข้อเสนอให้อีแวนคุ้มครองนางในการเดินทางไปอังกฤษแต่สิ่งที่นอร่าพบหลังจากเดินทางไปยังที่อยู่ของอีแวนก็คือเขาใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำที่เป็นส่วนตัวและแยกตัวห่างออกมาจากผู้คน และเขาไม่เคยห่างจากเห้าที่เขาดื่มเลย

สำหรับอีแวน แม็คอลิสเตอร์ การมีผู้หญิงคนหนึ่งมายื่นข้อเสนอให้เขาคุ้มครองนางไปยังอังกฤษช่างเหมือนเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเขามาแล้วในอดีตเพราะทั้งอีแวนและพี่ชายต่างหลงรักผู้หญิงคนเดียวกันและผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่ารักเขาก็ยื่นข้อเสนอให้เขาพาหนีไปยังอังกฤษและนางก็ทิ้งเขาและหนีไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นและหลังจากกลับมาที่บ้านอีแวนกลับพบว่าพี่ชายที่เขารักที่สุดได้จบชีวิตตัวเองลงหลังจากที่เขาหนีไปอังกฤษและหลังจากนั้นอีแวนก็เฝ้าโทษตัวเองเสมอมาว่าเขาคือต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายเขาต้องตายและอีแวนไม่มีวันจะให้อภัยตัวเองในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้อีแวนกลับพบผู้หญิงที่มายื่นข้อเสนอแบบเดียวกันนี้ต่อเขาอีกซึ่งแน่นอนเขาจะไม่มีวันทำผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองทางเดียวที่เขาจะทำได้และอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้ก็คือพานางไปส่งยังปราสาทของครอบครัวเขาให้เร็วที่สุดและการที่อีแวนพบว่านอร่าไม่เคยคิดจะหยุดพูดเลยตลอดการเดินทางนั่นแทบทำให้เขาบ้า(ก็แค่ตอนแรกเท่านั้นแหละ)

แต่ระหว่างการเดินทางไปยังปราสาทของครอบครัวอีแวนกลับถูกกลุ่มยิปซีเร่รร่อนวางยาและลักพาตัวจากคำสั่งของใครบางคนนั่นทำให้ทั้งเขาและนอร่าต้องติดอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงแม้หลังจากนั้นอีแวนจพบว่าเขาช่างเปิดเผยคำพูดและความรู้สึกของตัวเองต่อนอร่ามากกว่าที่เขาเคยมีแม้แต่กับพี่น้องของตัวเองอย่างสิ้นเชิงแม้ว่าการมีนอร่าอยูเคียงข้างจะทำให้เขาไม่เจ็บปวดทรมานกับเรื่องในอดีตเขารู้ว่าต้องพยายามอยู่ให้ไกลจากนางแม้ว่าเขาชอบที่จะอยู่ใกล้นอร่ามากแค่ไหนก็ตาม

อย่างที่บอกตอนแรกว่าแอบรำคาญอีแวนเหมือนกันก็เข้าใจแหละว่ารู้สึกผิดกับเรื่องในอดีตที่เขาเฝ้าแต่โทษตัวเองว่าเป็นคนที่ทำให้พี่ชายตายและหลังจากนั้นก็หมกมุ่นอยู่กับเหล้าหมดอาลัยตายอยากไม่ทำอะไรไม่สนใจอะไรทั้งนั้น(ถ้าไม่รวยทำไม่ได้นะ 5555)และยิ่งช่วงที่ตัวเองรู้ว่ารักนอร่าแล้วแต่ยังไม่อยากยอมรับเพราะเป็นพระเอกเหลือเกินนั้นมันทำให้เราอยากบ้องหูอีแวนสักทีให้หายเมาไปเลยนะหมียักษ์ก็หมียักษ์(คำที่นางเอกชอบใช้เรียกอีแวน)เหอะฟร่ะ แม้จริงๆแล้วช่วงน่ารักๆเวลาที่อีแวนอยากจะอ้อนนางเอกประมาณใช้มุขฟายๆแกล้งเจ็บเพราะอยากให้นางเอกดูแลนั่นมันจะน่ารักดีแล้วนางเอกก็ซ้อนแผนยิ่งกว่าทำเนียนเห็นพระเอกเจ็บจริงเพราะอยากอยู่ใกล้พระเอกเหมือนกันอันนี้ฮาอ่ะ ขนาดเวลาหึงโหดอีแวนยังไม่หยุดคิดเรื่องในอดีตเลย เฮ้ยยย เยอะไปนะแกร๊!!

25 สิงหาคม, 2555

เทพบุตรบาป Born in Sin - by…..Kinley MacGregor


- เทพบุตรบาป Born in Sin - by…..Kinley MacGregor
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล จิตอุษา
- จำนวนหน้า 560 หน้า




เทพบุตรบาป Born in Sin - by…..Kinley MacGregor

รีบหยิบเล่มที่สองมาอ่านต่อทันทีหลังจากอ่านเล่มแรก เทพบุตรแดนเถื่อน ไป หลายคนบอกชอบเล่มเทพบุตรบาปกัน รวมทั้งเราด้วย เล่มนี้อ่านแล้วพล็อตสนุกกว่าเล่มแรกเยอะเลยคาแร็คเตอร์ทั้งซินและคันลี่น่าติดตามกว่าเยอะ ก็แหงล่ะในเมื่อเล่มแรกเองกล่าวถึงปมปัญหาชีวิตของซินไว้ซะเยอะ จนเราสนใจแต่ซินทิ้งบราเดนไว้ห่างๆเลย จนมาถึงเล่มของซินเองตอนอ่านแอบนึกไปถึงเล่มแอชรอนจาก DH เหมือนกันนะ เพียงแต่เราว่า ทรหด กับ โชคชะตาคนละแบบกันเท่านั้น
หลังจากในอดีตที่ซินไม่ได้รับความสนใจจากพ่อและแม่ที่ไม่ต้องการและสนใจใยดี ตลอดระยะเวลาเกือบสิบแปดปีเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงื้อมืออันโหดร้ายของการถูกทุบตี ถูกทารุณกรรม และ การถูกสาปแช่ง  และในที่สุดเขาก็กลายเป็นเพียงสัตว์อย่างที่คนที่ควบคุมเขาอยากให้เป็น ไม่มีสิ่งใดที่หลงเหลือในตัวเขาแม้กระทั่งความเจ็บปวดและซินรู้ดีว่าการฆ่าคนก็เหมือนกับการทำให้ตัวเองอิ่มท้อง และตอนนี้ซินก็กำลังจะฆ่าผู้ชายคนหนึ่งตามคำสั่งของพวกที่ต้องการชีวิตของชายคนนี้ นั่นก็คือพระเจ้าเฮนรี่ แห่งอังกฤษ หน้าที่ของเขาแค่เพียงจัดการเรื่องนี้โดยไวและเขาก็จะได้รับอาหารมาประทังชีวิตที่เหลืออยู่แล้ว

แต่ สิ่งที่กำลังดังก้องในหัวของซินและอิสรภาพในครั้งนี้แลกกับความจงรักภักดีที่ซินจะมีให้เฮนรี่ตราบจนวันตาย พ่อของเขาโยนเขาออกมาจากสก็อตแลนด์ที่ซึ่งไม่มีใครต้องการเขาเลยสักคน และ แม่แท้ๆของเขาอยากให้เขาตายในทุกๆทางที่จะสามารถทำได้ และซินบอกตัวเองว่านี่อาจจะถึงเวลาที่อาจจะค้นพบบ้านที่เขาโหยหามาตลอดชีวิตเสียทีและหลังจากวันนั้นมิตรภาพของทั้งซินและพระเจ้าเฮนรี่ก็แน่นแฟ้นมานานปี แต่ตอนนี้เฮนรี่กำลังขอให้เขาทำในสิ่งที่เป็นไปได้ยากที่สุดเพราะเขาจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงชาวสก็อตที่จับมาเป็นตัวประกัน แม้ซินพยามปฏิเสธและหาข้ออ้างยังไงก็ไม่สามารถยกเลิกความตั้งใจครั้งนี้ของเฮนรี่ได้

สำหรับคัลลีโดเนียแห่งแคลนแม็คนีลลี่การที่พยายามจะหนีออกจากวังในอังกฤษไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อไหร่ที่คัลลีวางแผนหนีทีไรต้องเกิดเหตุการณ์ให้ต้องกลับมายังปราสาทที่ทำให้คัลลีรู้สึกว่าเป็นเหมือนที่คุมขังนางแค่ต้องการอิสรภาพและกลับไปยังบ้านในสก็อตแลนด์ของนาง และการพยายามที่จะหนีในครั้งนี้ทำให้พบกับอัศวินที่เหมือนทำให้นางตกอยู่ในพลังอำนาจบางอย่างและรู้ว่าเขาคือบุรุษอันตรายและนางคิดว่าการอยู่ให้ห่างเขาเป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุด แต่การอยู่ให้ห่างจากอัศวินอังกฤษอย่างซินย่อมแทบเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อไหร่ที่คัลลีพยายามจะหนีออกไปจากลอนดอนเมื่อไหร่แต่กลับต้องมีปัญหามาขัดขวางตลอด และคนที่ยื่นมือเข้ามช่วยก็คือซิน โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนคือคนที่กำลังจะแต่งงานกัน(ด้วยความไม่เต็มใจ)แต่ไม่ว่าจะไม่เห็นด้วยในการแต่งงานครั้งนี้มากแค่ไหน คัลลี ก็ต้องยอมตกลงเพราะนั่นหมายถึงนางจะได้กลับบ้านในสก็อตแลนด์และซินเองคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สงครามและความขัดแย้งของอังกฤษและกบฏในสก็อตแลนด์ยุติลง

สำหรับซินแล้วการที่เขาพยายามปิดกั้นหัวใจและอารมณ์ตัวเองมาหลายปี ไม่ยอมให้ใครมามีอำนาจเหนือเขา และ มันก็จะเป็นเช่นี้ต่อไป ซินจะไม่ยอมให้ภรรยาที่เขาแต่งงานด้วยมามีอำนาจเหนือตัวเขาเพราะซินรู้ว่าสักวันมันต้องทำลายเขาอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต แต่สำหรับคัลลีแล้วไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามนางจะตีฝ่าปราการแน่นหนาที่ซินพยายามซ่อนเร้นทุกสิ่งทุกอย่างจากนางเพราะในสายตาคัลลีแล้วซินคืออัศวินผู้สูงส่ง ดีงาม และ นางต้องการจะลบความทรมานในใจของเขาให้หมดสิ้นไป โอ้ยยยย ต้องบอกว่าเล่มนี้ซินเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งมากกกก และ บริสุทธิ์มากเช่นกัน 555 การที่เขาปิดกั้นตัวเองตลอดมา แต่ค่อยๆโดนคัลลีกระเทาะเกราะต่างๆที่ห่อหุ้มจิตใจของซินให้ทะลายออกนี่มันช่างล้ำค่า(เว่อร์ไปมั้ยเนี่ย) แม้ว่าซินเองจะยังคิดอยู่เสมอว่าเขาไม่คู่ควรกับคัลลีเลยยิ่งตอนสุดท้ายที่ซิน(สปอยล์)ยอมสลับตัวกับน้องชายนางเอกเพื่อที่จะรับโทษในข้อหากบฏ..เขายอมให้คัลลีได้อยู่กับครอบครัวและเขาจะเป็นคนยุติปัญหาในครั้งนี้เองเพราะรู้ว่านางเอกรักครอบครัวมากแต่ใช่ว่าคัลลีจะยอมอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้ซินโดนจับไปอย่างที่ซินต้องการนะ ตอนนี้เราว่าคัลลีเท่ห์ดีอ่ะ
เล่มนี้มีไซม่อนโผล่ออกมาขโมยซีนบ้างเป็นระยะเราแอบฮาจริงๆเวลามีบทไซม่อนเนี่ย และ พี่น้องทั้งสี่ของแม็คอลิสเตอร์ก็มาอยู่รวมกันอีกรอบ ชอบจริงๆ

22 สิงหาคม, 2555

เทพบุตรแดนเถื่อน Claiming the Highlander – by…..Kinley MacGregor


- เทพบุตรแดนเถื่อน Claiming the Highlander – by…..Kinley MacGregor
- สำนักพิมพ์ แก้วกานต์ 
- หนังสือแนว historical romance
- ผู้แปล พิชญา
- จำนวนหน้า 420 หน้า



เทพบุตรแดนเถื่อน Claiming the Highlander  by…..Kinley MacGregor

หลังจากที่ดองชุดนี้ไว้นานมากตอนนี้ได้ฤกษ์หยิบมาอ่านเสียทีกับงานย้อนยุคของคินลีย์ แม็คเกรย์เกอร์ หรือ อีกชื่อ ของเธอก็ เชอร์ริลีน แคนย่อน จาก DH ล่ะค่ะ แต่ตอนนี้เราเลิกอ่านเลิกตามชุด DH ของเธอไปแล้วเพราะชักออกทะเลไปไกลและเล่มหลังๆมาเหมือนหมดมุขซะแล้ว สำหรับเทพบุตรแดนเถื่อนเล่มแปลบอกไว้ว่าเป็นเล่มแรก แต่เล่มอิงค์เล่มแรกเป็นอีกเล่มหนึ่งซะงั้นแต่สองเล่มนี้อ่านเล่มไหนก่อนก็ไม่มีปัญหาเพราะพล็อตไม่ได้เกี่ยวข้องกันเท่าไหร่ นอกจากสี่เล่มที่เรียงกันของพี่น้องแม็คอลิสเตอร์  เทพบุตรแดนเถื่อน /เทพบุตรบาป /เทพบุตรทระนง/เทพบุตรเจ้าหัวใจ
ด้วยความหล่อสุดๆและอันตรายยิ่งกว่าปีศาจ บราดอน แม็คอลิสเตอร์ เขามีเรื่องกลุ้มใจอยู่เรื่องเดียวคือเขาบูชาผู้หญิงทุกคน และ เขาก็เป็นอันตรายสำหรับผู้หญิงทุกคนเช่นเดียวกัน แต่แม้เขาจะมีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตมากมายแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่บราเดนจะไม่มีวันเสียให้ใครก็คือความรัก ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่มีวันมอบหัวใจให้ใครเป็นอันขาด และการกลับไปยังบ้านของเขาในสก็อตแลนด์ครั้งนี้ก็มีเรื่องให้บราเดนต้องยื่นมือเข้าไปจัดการกับสถานการณ์ตึงเครียดบางอย่าง

หลังจากที่พวกผู้หญิงในเผ่าหลบไปซ่อนตวในโบสถ์เพื่อเรียกร้องให้ทั้งผู้ชายทั้งสองเผ่าหยุดการนองเลือดและบาดหมางระหว่างกัน โดยคนที่คนต้นคิดในเรื่องนี้คือ แม็กกี้ อินเกน บลาร์ น้องสาวของเพื่อนบราเดน ในอดีตเขารับรู้แค่เพียงว่าเด็กผู้หญิงอย่างแม็กกี้คือตัวแสบ ผมแดง หน้าตกกระ และฟันเหยินและนางชอบทำร้ายร่างกายเขาอยู่เรื่อยมา แต่สิ่งที่บราเดนต้องลงมือในตอนนี้คือหว่านเสน่ห์ให้แม็กกี้หลงไหลเพื่อที่นางจะยอมยกเลิกแผนการณ์ทั้งหมด แต่แผนการของบราเดนที่คิดว่าจะใช้เสน่ห์ที่มีหลอกล่อแม็กกี้กลับไม่เป็นผลเพราะนางไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียวแถมยังต่อต้านและรู้ทันแผนการของเขาทั้งหมด

สำหรับ แม็กกี้ แล้วการที่แอบหลงรัก ผู้ชายอย่างบราเดนมาตั้งแต่อดีตโดยที่รู้ว่าเขาไม่เคยจะสนใจหรือมองเห็นนางอยู่ในสายตาเลยไม่ว่าแม็กกี้จะพยายามให้ขามองเห็นแค่ไหนก็ตามสำรับบราเดนแม็กกี้เป็นเพียงเด็กผู้หญิงที่น่ารำคาญคนหนึ่งและการที่บราเดนพยายามมาหว่านเสน่ห์ให้นางในครั้งนี้แม็กกี้รู้ดีว่าก็เพียงเพื่อต้องการให้นางยุติการซ่อนตัวพวกผู้หญิง แม้ทั้งที่จริงแล้วการที่บราเดนพยายามใชเสน่ห์ล่อลวงแม็กกี้ให้หลงใหลตัวเขานั้นแทบทำให้แม็กกี้ต้านทานไม่อยู่เพราะมันเป็นสิ่งที่นางต้องการตลอดมา แต่ แม็กกี้จะอ่อนแอไม่ได้ถ้าแผนการนี้สิ้นสุดลงก่อนที่ทั้งสองเผ่าจะยกเลิกความบาดหมางต่อกันการสูญเสียชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุดก็จะยังคงอยู่ และ นางเองก็ยอมสูญเสียใครไปไม่ได้อีกแล้วหลังจากการตายของพี่ชายสองคนในครั้งที่ผ่านมา

แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้นเมื่อผู้ชายในเผ่ารวมตัวกันจับผู้นำอย่างลอคแลนพี่ชายของบราเดนพร้อมกับพี่ชายของ แม็กกี้ไว้เป็นตัวประกันเพื่อให้ปล่อยพวกผู้หญิงออกมาจากโบสถ์ไม่งั้นลอคแลนพี่ชายของบราเดนจะต้องตายโดยในเวลาเพียงแค่สี่วัน และนั่นทำให้แม็กกี้ต้องออกเดินทางไปยัง เผ่าแม็คดัคกลาสเพื่อเจรจาให้ยุติความบาดหมางทุกๆอย่าง แต่การเดินทางในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อบราเดนและซินพี่ชายของเขาเดินทางไปพร้อมกับแม็กกี้ด้วย แม็กกี้ไม่แน่ใจว่าอีกนานแค่ไหนที่จะยังต้านทานเสน่ห์ของบราเดนไหวและสิ่งที่ช็อคความรู้สึกของแม็กกี้ในการเดินทางไปยังเผ่าแม็คดัคกลาสก็คือแม็กกี้พบว่าที่นั่นมีลูกชายที่เกิดจากบราเดนกับผู้หญิงที่เขามีความสัมพันธ์ด้วยโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว  จะบอกว่าไงดีเล่มนี้ ซิน พี่ชายของบราเดนเราว่าออกมาขโมยซีนแบบเต็มๆเลยล่ะตอนอ่านเราโฟกัสซินมากกว่าบราเดนเสียอีก ก้ากกก สำหรับพล็อตเราว่าก็ เรื่อยๆเอื่อยๆไม่มีไรพิเศษที่ทำให้น่าติดตามเท่าไหร่เลยแม้แต่ที่ว่าพระเอกเป็นคนที่มีเสน่ห์จนผู้หญิงเห็นแล้วต้องหลงใหลทุกที เรากลับคิดว่าไม่มีไรน่าเอื้อมขนาดนั้นนะสำหรับบราเดน คาแร็คเตอร์ไม่ได้น่ากรี๊ดสลบเวลาอ่านเราว่าออกจะดาษดื่นเลยล่ะ 5555+ แต่สิ่งที่ชอบในเล่มนี้ก็คือเวลาพี่น้อง ทั้งสี่คนอยู่รวมกัน หรือ ปะทะคารมกันทีไร มันทำให้เรายิ้มตามเหมือนกันนะ ชอบความสัมพันธ์ของพี่น้องตรงนี้มากกว่า สำหรับเราอ่านเล่มนี้จบยังยกมือให้ จูลี่ การ์วูด เป็นอันดับหนึ่งในใจที่เขียนแนวสก็อตได้สนุก น่าอ่าน น่าติดตาม ต่อไป แต่ขอลองอ่านเล่มที่เหลือในชุดนี้ให้หมดทุกเล่มก่อนแล้วกันเผื่อเราอาจเปลี่ยนใจ(แต่คิดว่าคงยาก) 555555

18 สิงหาคม, 2555

มนต์รักอันดามัน /Silver and Sapphire /// มนต์จุมพิต / A Stranger's Kiss - by..... Shelly Thacker




หลังจากอ่าน รักข้ามภพ ของ เชลลี จบไปก็ทำให้เอยากอ่านเล่มอื่นๆของเธอตามไปด้วยแล้วก็มาลงเอยที่สองเล่มนี้ สองเล่มเป็นชุดเดียวกันค่ะพระเอกทั้งสองเรื่องเป็นพี่น้องกันแต่เราว่าจริงๆแล้วพล็อตไม่ได้เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่เลยนอกจากเรื่องของพี่น้องบ้างนิดหน่อยอ่านตอนช่วงเล่มรีพริ๊นซ์จะออกใหม่พอดีใครตามหารักข้ามภพอยู่รอซื้อเล่มใหม่เลยค่ะปกสวยดี แต่เราเป็นพวกชอบปกแบบเก่าคลาสสิกมากกว่านะดูขลังสมเป็นโรมานซ์ดี ก้ากกก




มนต์รักอันดามัน /Silver and Sapphire

ต้องบอกก่อนว่าราเป็นพวก(เรื่องมาก)ไม่ชอบพล็อตแนว อินเดีย ฮาเร็ม หรือ ใช้ชีวิตอยู่บนเรือเยอะๆ ชีวิตติดเกาะ ตามล่าสมบัติ ผจญภัย ประมาณนี้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาตอนต้น รวมอยู่ในเล่มนี้หมดเลยเหอะ 555 แต่เพราะเป็นงานของเชลลี แธ๊คเกอร์ ก็ทำให้อยากลองอ่านดูว่าจะเป็นไง หลังจากเรือเอเดนเต้ถูกโจรสลัดอังกฤษโจมตีเอเชียน่าสูญเสียทั้งเรือและพ่อไปพร้อมๆกัน และนั่นทำให้แอเชียน่าถูกมหาราชาแห่งราชพุฒในแอชเมียเลี้ยงดูเหมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่งและแอเชียน่าก็จดจำไว้ว่าเธอเกลียดคนอังกฤษมากมายแค่ไหนแม้แท้จริงแล้วเลือดครึ่งหนึ่งในตัวจะเป็นอังกฤษแต่แอเชียน่ารู้ดีว่าไม่ใช่ เธอคือแอชเมียร์และเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่และถึงเวลาที่แอเชียน่าได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญเพื่อนำอัญมณีมีเก่าแก่โบราณที่ถูกขโมยไปโดยฝีมือคนอังกฤษให้คืนกลับมายังแอชเมียร์อย่างปลอดภัยและรอดพ้นจากคำสาป
แค่การนำแซฟไฟร์กลับมายังแอชเมียร์ให้ได้คงไม่ยุ่งยากขนาดนี้เมื่อแผนการดำเนินไปกับการที่เธอต้องปลอมตัวเป็นนางทาสเพื่อเข้าใกล้ผู้ชายอังกฤษที่ยึดครองแซฟไฟร์เม็ดนั้นอยู่แต่หลังจากที่แผนการที่วางไว้เกือบจะสำเร็จอยู่แล้วแต่กลับโดนลากลงไปในเรือของเขาโดยที่ไม่มีทางที่จะหนีได้อีกเลย และตอนนั้นเธอก็รู้ดีว่าแผนการต่างๆที่วางไว้ล้มเหลวแต่สิ่งที่แอเชียน่าต้องคิดก่อนคือจะรับมือกับอารมณ์เกรี้ยวกราดของผู้ชายที่เธอทำร้ายเขาได้อย่างไรเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาและรู้ว่าเธอขโมยแซฟไฟร์เม็ดนั้นมาจากเขาเรื่องนี้ผจญภัยตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆพล็อตสนุกนะ แต่เราไม่ค่อยชอบแนวนี้เลยอาจจะบอกว่าเอื่อยๆก็ได้ในเรื่องนี้ชอบสัตว์เลี้ยงนางเอกมากนางเอกเลี้ยงเสือเป็นงานอดิเรกซะงั้น5555น่ารักดี




มนต์จุมพิต / A Stranger's Kiss

เล่มที่สองในชุดเล่มนี้ผิดคาดเพราะเราแอบเดาว่าจะเป็นจูเลี่ยนน้องชายคนกลางของพระเอกมนรักอันดามัน แต่ดันเป็นน้องชายคนเล็กซะงั้น เรื่องนี้อ่านแล้วสงสารนางเอกอ่ะ บีบคั้นอารมณ์ดีเหมือนกัน นางเอก เป็นคนฝรั่งเศสทำการทดลองปุ๋ยเพื่อทำให้พืชเจริญงอกงามแต่ความผิดพลาดบางอย่างจากปุ๋ยกลายเป็นระเบิดและที่สำคัญรัฐบาลฝรั่งเศสต้องการสูตรของปุ๋ยชนิดนี้เพื่อทำระเบิดและการถูกตามล่าจากทั้งฝรั่งเศสและ อังกฤษ เพื่อแย่งชิงสูตรระเบิดก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวและการประสบอุบัติเหตุระหว่างการหนีก็ทำให้นางเอกความจำเสื่อมไม่สารถจำอะไรได้เลยพร้อมกับการที่ฟื้นขึ้นมาและพบว่าอยู่ในโรงพยาบาลบ้าพร้อมกับผู้คุมที่พยายามเค้นเอาความจริงนั่นยิ่งทำให้มารีแทบทนไม่ไหวและเธอต้องการออกไปจากที่นี่ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม แล้วคนที่อ้างว่าเป็นสามีของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับที่เขาบอกว่าจะพาเธอหนีออกจากที่คุมขังแห่งนี้ และ เขาอยากให้มารีไว้ใจเพราะเขาคือสามี ที่มาเพื่อช่วยเหลือให้พ้นจากอันตรายที่กำลังเผชิญอยู่แต่มารีไม่สามารถจดจำอะไรได้แม้กระทั่งชีวิตการแต่งงานกับแม็กผู้ชายที่กำลังช่วยเธอออยู่ตอนนี้
แม็ก เดเวอร์แนนท์ ได้รับมอบหมายหน้าที่จากรัฐบาลอังกฤษเพื่อนำตัวผู้หญิงที่เชื่อว่าเธอคนที่ผลิตระเบิดเพื่อทำลายล้างและเป้าหมายก็คือคนอังกฤษเขาจะต้องลักพาตัวภรรยาที่เขาแอบอ้างไปยังอังกฤษให้ได้ก่อนที่พวกฝรั่งเศสจะได้ตัวหล่อนไปแต่เขาไม่คิดว่าการที่ต้องอยู่ใกล้กับผู้หญิงอย่างมารีจะทำให้เขารู้สึกผิดและทุกข์ทรมานกับการที่ต้องโกหกและหลอกลวงว่าเขาคือสามีของเธอ และเขาจะไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้นเมื่อเกี่ยวกับมารีคนที่เกือบทำให้พี่ชายของเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะการทดลองระเบิดของฝรั่งเศส แน่นอนว่าการที่เขาเอาใจใส่และดูแลมารีแม้เขาพยายามจะบอกตัวเองว่ามันไม่เกี่ยวกับความรู้สึกของเขาเลยสักนิดแต่มันคือหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับงานที่ทำอีกไม่นานงานของเขาก็จะเสร็จสิ้นลงหลังจากที่ส่งตัวเธอให้กับรัฐบาลอังกฤษเมื่อถึงเวลานั้นหน้าที่ของเขาและทุกๆอย่างก็จะจบสิ้นลง
ตอนอ่านสงสารนางเอกจริงๆเข้าใจเลยว่าการที่เราไม่รู้และจำอะไรได้เลยมันโคตรทรมานจะไว้ใจใครก็ไม่ได้สำหรับเราชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มแรกนะแต่ก็ยังสู้รักข้ามภพไม่ได้อยู่ดีนะสำหรับเรา แต่ตอนอ่านเล่มนี้สิอารมณ์ค้างอย่างแรง อ่านๆไปกำลังถึงช่วงไคล์แมกอยู่แล้วหนังสือหน้าหายไปสิบกว่าหน้ามันแบบว่า เอ่อออ เฮ้ยยยย สะดุดกึกเลยโผล่มาอีกทีไปอีกตอนนึงแล้วซะงั้น อารมณ์เหมือนกำลังกินข้าวอร่อยๆอยู่ดีๆแต่ข้าวติดคอซะงั้น แทบหมดอารมณ์กิน ก้ากกกกก แต่ดีหน่อยที่เล่มรีพริ๊นซ์จะออกใหม่พอดีไม่ต้องรอนาน

15 สิงหาคม, 2555

รวมหนังสือที่อ่านในช่วงการรีวิวขาดๆหายๆ


รวมหนังสือที่อ่านในช่วงการรีวิวขาดๆหายๆ

พักนี้ก็ยังคงอ่านหนังสือต่อเนื่องอยู่นะแต่อาจมี ขาดๆช่วงโอลิมปิกนั่นเองดูโอลิมปิกอย่างเดียวจริงๆมีอ่านบ้างเล็กน้อยถึงปานกลางแต่ก็จบไปหลายเล่มอยู่เหมือนกัน แต่ช่วงนี้จะเน้นไปที่แนวย้อนยุคมากเป็นพิเศษ เพราะแนวนี้อ่านยังไงก็ไม่เบื่อดังนั้นบล็อคนี้ก็ขอรีวิวเล่มที่อ่านมาแบบรวมมิตรกันเลยทีเดียวจริงๆเหตุผลหลักก็คือขี้เกียจแยกนั่นแหละเพราะอ่านไปแทบจะลืมไปหมดแล้วด้วยซ้ำเป็นคนที่ความจำสั้นมากอ่านไรไปแทบไม่อยู่ในหัวสมองนอกจากเล่มไหนที่คลั่งหรืออ่านแล้วชอบจริงๆจะจำได้นานหน่อย(แต่ก็ยังลืมอยู่ดี)แต่ก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรได้เท่าไหร่เล้ยยยย 555






อัศวินสลับรัก / Jude Deverraux / พิศลดา แปล / สนพ ฟองน้ำ

สำหรับเราเคยอ่านงานของ จูด มาบ้างแต่ยอมรับว่าไม่ค่อยโดนใจค่ะ แต่เล่มที่เคยอ่านเป็นงานแนวปัจจุบันของเธอนะ ส่วนเล่มนี้เป็นย้อนยุคแนวอัศวิน(ที่ช่วงนี้เราคลั่งแนวอัศวินยุคกลางมากๆ)เพื่อนเลยจัดอัศวินมาให้อ่านหลายเล่มเลย สำหรับเล่มนี้ รู้สึกจะเป็นเล่มที่หกในชุดมั้งคะถ้าเราจำไม่ผิดนะ อ่านจบไปพักนึงแล้ว และ สำหรับเราก็ยังคิดว่าไม่มีอะไรดึงดูดใจให้อยากอ่านงานของเธอมากไปกว่านี้ สำหรับเล่มนี้อง น่าเบื่อพอดู(สำหรับเรา)พระเอกน่าเบื่อมาก แน่ใจนะว่าแกคืออัศวิน ทำไมเราน่าค่อดน่ารำคาญก็ไม่รู้ 55555 สำหรับเรา เจมี่ มอนต์โกเมอรี่ เป็นพระเอกที่ น่าเบื่อ และ ไม่มีเสน่ห์เลยให้ตาย จบข่าว!!



อัศวินข้ามมิติ Touch of Enchantment /  Teresa Medeiros / ปิยะฉัตร แปล / สนพ น้ำฝน

ช่วงหลังมาเราได้อ่านงานของเทเรซ่า เมดิรอส หลายเล่มเหมือนกัน ส่วนมากจะเป็นย้อนยุค และ อัศวินบ้าง แต่เล่มนี้ ออกแนวพาราฯหน่อย เพราะนางเอกทะลุมิติจากปัจจุบันกลับไปยังอดีตยุคอัศวินกลาง ซึ่งนั่นตอนอ่านแอบคิดถึงรักข้ามภพ ของเชลลี่แธคกอร์ ขึ้นมาค่ะ แต่หลังจากอ่านจบ(แบบเร็วๆ)แล้วก็คิดว่าเล่มนี้ช่างแปลเนื้อเรื่องในยุคอัศวินกลางได้โคตรสุภาพมาก อ่านๆไปชักไม่แน่ใจนี่มันเป็นอัศวินยุคกลางจริงๆใช่ป่าวฟร่ะ แถม ปิยะตัด แปลแล้วตัดออกซะเนื้อเรื่องเล่มบางจ๋อยซะงั้น อ่านไปไม่รู้จะขัดใจอะไรมากกว่ากัน ระหว่าง อัศวินยุคกลางที่เวลาพูดสุภาพซะเหลือเกินนึกว่าพระเอกอยู่ในยุครีเจนซี่เสียอีก กับ การที่ขัดใจเพราะโดนหั่น อะไรมันจะขนาดนั้น แต่ไม่ใช่หั่นตรงเลิฟซีนหรอกนะ เนื้อเรื่องโดยรวมต่างหากที่เหลือเพียงเล่มบางๆเท่านั้น แต่สำหรับปิยะตัด หลายคนอาจไม่แปลกใจเลยก้ได้เพราะเค้าขึ้นชื่อเรื่องการหั่นเนื้อเรื่องออกเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะงั้นเราเลยต้องรีบอ่านให้จบไวๆ ดีกว่าเพราะไม่อยากเสียอารมณ์มากไปกว่านี้




เสน่ห์เทพธิดา  Once an Angel / Teresa Medeiros / ปิยะฉัตร แปล / สนพ ฟองน้ำ

เล่มนี้อ่านแล้วโอเคระดับหนึ่งเลยนะ แม้จะรู้ว่า ปิยะตัด ตัดอีกแล้วก็เถอะ เพราะออกแนวนางเอกเป็นเด็กในปกครองของพระเอกหลังจากที่พ่อของนางเอกตายและนางเอกเข้าใจว่าพระเอกคือคนที่ทำให้พ่อตายและแย่งเอาทุกอย่างของพ่อไปจนหมด(พ่อนางเอกทำเหมืองทองอยู่ที่นิวซีแลนด์)ตอนแรกอ่านเข้าใจว่านางเอกอายุแค่ 11 ขวบจริงๆ แอบตกใจด้วย เพราะพระเอกก็เข้าใจแบบเป๊ะๆมากๆว่าลูกสาวของเพื่อนที่เขารับปากว่าจะช่วยดูแลอายุแค่ 11 ขวบก็เข้าใจตามนั้นตลอดมา แต่ตอนอ่านที่แอบ งง เพราะส่วนนึงคือการตัดเนื้อหาออกบางส่วนนั่นแหละที่ทำให้บางฉากดูกระโดกกระเดก ข้ามไปข้ามมาแบบงงๆ แต่เนื้อเรื่องโดยรวมเราโอเคเลยนะ และก็จบลงแบบคลี่คลายทุกปัญหานั่นแหละ




เจ้าหญิง Once a Princess / Johanna Lindsey / กฤติกา แปล / สนพ ฟองน้ำ

เล่มนี้อยากลองอ่านเองและก็ตามนั้นยืมเพื่อนมาอ่าน เพราะปกติจะไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องไหนที่ใช้ราชาศัพท์เท่าไหร่แม้เล่มนี้จะมีคำราชาศัพท์บ้าง แต่ไม่รู้สึกขัดใจนะเพราะตามบริบทมันต้องเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ใช้พร่ำเพรื่อแบบนั้นก็ไม่ไหว(เรื่องมากเนอะ) ส่วนตัวอ่านงานของป้าโจไปเพียงไม่กี่เล่มแอบมีความรู้สึกว่าเหมือนจะสนุกแต่อ่านๆไปกลับไม่ค่อยหนุกยังไงไม่รู้แหะ แม้แต่เล่มนี้เองเราว่าแอบอืดๆหลายช่วงเลย ช่วงบทบรรยายยาวมากบางช่วงแทบจะทั้งบทแต่ด้วยฝีมือการเขียนของป้าโจ และ การแปลของคุณกฤติกา เอาอยู่ค่ะ



กุญแจหัวใจ The Key / Lynsay Sands / แพรคำ แปล / สนพ ภัทรา

เล่มนี้อ่านแล้ว ฮาๆดีค่ะ เป็นครั้งแรกกับงานของ ลินเซย์ แซนด์ เลยสำหรับเรา เล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด ส่วนเล่มแรกรู้สึกจะไม่ได้แปลมั้งคะ แปลแค่เล่มสองกับเล่มสามออกมาเท่านั้น  เรื่องนี้นางเอกต้องหนีจากพ่อเลี้ยงผุ้ชั่วร้ายและทางเดียวที่จะปลอดภัยทั้งชีวิตของแม่และชีวิตขิงตัวเองนั้นเธอต้องแต่งงานกับคนเถื่อนในไฮแลนด์ และ พร้อมกับการพยายามสกัดกั้นไม่ให้มีการร่วมเตียงกับสามีในคืนแต่งงาน(และอาจจะตลอดไป) นางเอกจึงใส่เข็มขัดพรมจารีไว้ แต่ พระเอกก็หาทางที่จะกำจัดเข็มขัด(เหล็ก)ที่นางเอกใส่ไว้ให้ได้นั่นแหละ แต่จะทำยังได้เมื่อไม่มีลูกกุญแจ จะพานางเอกไปหาช่างตัดเหล็กโดยตรงก้ไม่ได้ ก้ากกกกกก

แต่ ใช่ว่านางเอกจะไม่ยอมถอดเข็มขัดอันนี้นะ เพียงแต่ถ้าจะให้ถอดและพระเอกจะร่วมเตียงด้วย ข้อแม้ของนางเอกก็คือพระเอกต้องอาบน้ำก่อนถึงจะยอมถอด เพราะพระเอกยอมอาบน้ำแค่เพียงปีละสองครั้ง!!! แลวคิดดูว่ากลิ่นจะขนาดไหน จนนางเอกไม่สามารถทนอยู่ใกล้ๆได้เลยต้องมีข้อแม้นี้ขึ้นมา แต่แน่นอนพระเอกไม่มีทางยอมอยู่แล้ว(มันไม่คิดว่าตัวมันเหม็นท่านผู้โช้มมมม 5555) และคนในปราสาทของพระเอกนี้ก็เป็นเหมือนเจ้านายที่ไม่มีใครชอบอาบน้ำเลย คิดดูกลิ่นจะขนาดไหนเวลาอยู่รวมกัน จนนางเอกทนไม่ได้ต้องหาวิธีให้มีวาระแห่งการอาบน้ำกันเลยทีเดียว ช่วงแรกนางเอกถูกต่อต้านจากทุกคนนั่นแหละ แม้แต่กับพระเอกเองแต่สุดท้ายนางเอกก็เอาอยู่ และมีวิธีจัดการให้พระเอกยอมอาบน้ำได้แบบเต็มใจฝุดๆเลยล่ะ



แมดเดลีนสาวหารัก The Education of Madeline (Plum Creek, #1) / Beth Williamson / อาจิตรพรรณ แปล / สนพ คริสตัล

ครั้งแรกเหมือนกันับงานของ Beth Williamson เล่มไม่หนามากค่ะ อ่านได้กำลังดี แต่ หลังจากอ่านจบแล้วคิดว่าพล็อตง่อยไปหน่อย ไม่มีความคิดที่อยากจะคล้อยตามเลย เรื่องนี้เป็น ช่วงยุคบุกเบิกอเมริกา แต่ไม่มีเนื้อเรื่องช่วงไหนที่หนักหนาหรือเครียดจนอ่านแล้วเครียดตามหรอกนะคะ เพราะ เรื่องนี้คืองาน อิโรติก โรมานซ์ เพราะงั้นหลักๆก็จะเลิฟซีนเยอะพอประมาณ แต่ที่ทำให้ส่ายหน้าเบาๆกับพล็อตที่นางเอก(วางแผน)ช่วยเหลือผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังจะถูกแขวนคอเพราะเขาถูกกล่าวหาว่าขโมยม้าให้รดพ้นจาการถูกแขวนคอ โดยให้ไปอยู่ที่บ้านพร้อมกับยื่นข้อเสนอว่าอยากให้เขาช่วยสอนบทเรียนในการร่วมรักในทุกๆแง่มุม ก่อนที่เธอจะแต่งงานในวันข้างหน้าหรืออาจจะไม่ได้แต่งเลย นางเอกคิดว่าตัวเองเป็นสาวแก่แต่ก็อยากเรียนรู้เรื่องนี้โดยจ้างพระเอกเป็นเวลาหนึ่งเดือนในการสอนบทเรียน(โดยที่ไม่มีใครรู้นอกจากทั้งสองคน) แน่นอนที่พระเอกอึ้งไปในชั่วขณะแรกที่ได้ยิน แต่พอตั้งสติได้ก็ เป๊ะ ต้องตกลงแน่อยู่แล้ว แต่เรื่องที่ดำเนินไปนี่สิที่อ่านแล้วชวนง่วงจริง อืด ยืดยาดพอดู แถมอ่านไปเราไม่ค่อยเชื่อในความรักระหว่างทั้งสองคนเลย(แม้จะรู้ดีว่านี่มันคือ อิโรติก โรมานซ์ อย่าไปใส่ใจกับพล็อตหลักนักเลยก็เถอะ)  แต่ เราว่าสำนวนแปลเล่มนี้โอเคเลยนะ สำนวนแปลไม่ปวดตับ ปวดไต อย่างของหลายๆคนในค่ายนี้ อ่านได้สบายใจพอสมควร